วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ปรัชญาที่ชาวจีนถือว่าเป็นมนตรานำโชคมาสู่ชีวิต (chinese tantra totem for good luck)

1. จงให้มากกว่าที่ผู้รับต้องการ และทำอย่างหน้าชื่นตาบาน
2. จงพูดกับคนที่ถึงแม้จะอายุน้อยกว่า แต่เขาก็มีความสำคัญเท่ากัน
3. จงอย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน ใช้ทั้งหมดที่มี และนอนเท่าที่อยากจะนอน
4. เมื่อกล่าวคำว่า 'ฉันรักเธอ' จงหมายความตามนั้นจริง ๆ
5. เมื่อกล่าวคำว่า 'ขอโทษ' จงสบตาเขาด้วย
6. ก่อนจะตัดสินใจแต่งงาน จงหมั้นเสียก่อนอย่างน้อย 6 เดือน
7. จงเชื่อในรักแรกพบ
8. อย่าหัวเราะเยาะความฝันของผู้อื่น คนที่ไม่มีฝันก็เหมือนไม่มีอะไร
9. เมื่อรักจงรักให้ลึกซึ้ง และ ร้อนแรง อาจจะต้องเจ็บปวดแต่นั่นคือหนทางเดียวที่ทำให้ชีวิตถูกเติมเต็ม
10. ในเหตุการณ์ขัดแย้ง โต้อย่างยุติธรรม ไม่มีการตะโกนใส่กัน
11. อย่าตัดสินคนเพียงเพราะญาติๆ ของเขา
12. จงพูดให้ช้า แต่ต้องคิดให้เร็ว
13. ถ้าถูกถามด้วยคำถามที่ไม่อยากตอบ จงยิ้มแล้วถามกลับว่า จะรู้ไปทำไม
14. จงจำไว้ว่า สองสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือความรัก และความสำเร็จ ล้วนต้องมีการเสี่ยง
15. พูดว่า ขอพระคุ้มครอง เมื่อได้ยินใครจาม
16. เมื่อพ่ายแพ้ จงอย่าสูญเสียบทเรียนไปด้วย
17. จงจำ 3 R :- นับถือผู้อื่น นับถือตนเอง รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ
18. จงอย่าให้ความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ มาทำลายมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่
19. ทันทีที่รู้ตัวว่าทำผิด ลงมือแก้ไขทันที
20. จงยิ้มเวลารับโทรศัพท์ ผู้ฟังจะเห็นได้จากน้ำเสียงของเรา
21. จงหาโอกาสอยู่กับตัวเองบ้าง


****

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อย่าเห็นแก่ตัว จนไม่เห็นหัวแผ่นดินไทย

อย่าเห็นแก่ตัว จนไม่เห็นหัวแผ่นดินไทย

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

ทำงานเพื่ออะไร?

การทำงานคือประสบการณ์ของชีวิต
เพราะเขาไม่รู้ต้องบอกเขา (พ่อ-แม่สอนลูก ให้ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ดีกว่าปากพูด ไม่ใช้อารมณ์ ใช้เหตุผล)

ทำงานเพื่ออะไร?
ทำงานเพื่อให้ได้งาน
ทำงานเพื่อการเรียนรู้
ทำงานเพื่อสาธารณะ
สุดยอดคือที่เรามีโอกาสได้ทำงาน


เรียนรู้ชีวิต
เรียนรู้เรื่องคน
เรียนรู้เรื่องการทำงาน
สั่งสมประสบการณ์ชีวิต

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552

* วิธีอยู่กับคนที่เราเกลียด*

ถ้าเรารู้สึกไม่ชอบหน้าใครสักคนหนึ่งแต่จำเป็นต้องอยู่ทำงานด้วยกันในที่ทำงานเดียวกันทุกๆ วัน ผมควรจะวางตัวอย่างไรดีครับ มันอึดอัดไปหมด ไม่มีความสุขเลยตลอดเวลาที่อยู่ในสำนักงานร่วมกันคนคนนี้ ==========================

วิสัชนา โดย ว.วชิรเมธี
รู้ไหมว่า เรามีเวลาอยู่ในโลกนี้คนละกี่ปี ชีวิตนั้นสั้นยิ่งกว่าหยดน้ำค้างเสียอีก จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า

ถ้าเราใช้เวลาอันแสนสั้นนี้ไปมัวหลับๆตื่นๆอยู่ในความรัก โลภ โกรธ หลง หมั่นไส้คนนั้น ปลาบปลื้มคนนี้ ริษยาเจ้านายใส่ไคล้ลูกน้! อง ปกป้องภาพลักษณ์ (อัตตา) กด (หัว)

คนรุ่นใหม่หลงใหลเปลือกของชีวิต โดยลืมไปเลยว่าอะไรคือสิ่งที่ตนควรทำอย่างแท้จริง คิดดูเถิดว่า เราจะขาดทุนขนาดไหน ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ เขียนบทกวีไว้ว่า

'' น้ำไหลอายุขัยก็ไหลล่วง ใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างความฝัน ฆ่าชีวาคือพร่าค่าคืนวัน จะกำนัลโลกนี้มีงานใด ''

คนเราไม่ควรพร่าเวลาอันสูงค่าด้วยการปล่อยตัวปล่อยใจให้ตกเป็นทาสของความชอบ ความชัง มากนัก เพราะถ้าเราวิ่งตามกิเลส กิเลสก็จะพาเราวิ่งทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ต่อไปไม่รู้จบ กิเลสไม่เคยเหนื่อย แต่ใจคนเราสิจะเหนื่อยหนักหนาสาหัสไม่รู้กี่เท่า

ควรคิดเสียใหม่ว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะชอบหรือไม่ชอบใคร หรือเพื่อที่จะให้ใครมาชอบหรือมาชัง แต่เราเกิดมาสู่โลกนี้เพื่อทำในสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะทำ เอาเวลาที่รู้สึกแย่ๆ กับคนอื่นนั้นหันกลับมามองตัวเองดีกว่า ชีวิตนี้เรามีอะไรบ้างที่เป็นแก่นสาร มีงานอะไรบ้างที่เราควรทำ

นอกจากนั้นก็ควรมองกว้างออกไปอีกว่า เราได้ทำอะไรไว้ให้แก่โลกบ้างแล้วหรือยัง คนทุกคนนั้นต่างก็มีดีมีเสียอยู่ในตัวเอง ถ้าเราเลือกมองแต่ด้านเสียของเขา จิตใจของเราก็เร่าร้อน หม่นไหม้

เวลาที่เสียไปเพราะมัวแต่สนใจด้านไม่ดีของคนอื่นก็เป็นเวลาที่ถูกใช้ไปอย่างไร้ค่า
บางที่คนที่เราลอบมอง ลอบรู้สึกไม่ดีกับเขานั้น เขาไม่เคยรู้สึกอะไรไปด้วยกันกับเราเลย เราเผาตัวเราเองอยู่ฝ่ายเดียวด้วยความหงุดหงิด ขัดเคืองและอารมณ์เสีย วันแล้ววันเล่า สภาพจิตใจแบบนี้ไม่เคยทำให้
ใครมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นมาได้เลย

ลองเปลี่ยนวิธีคิด วิธีมองโลกเสียใหม่ดีกว่า
คิดเสียว่าคนเราไม่มีใครดีพร้อมหรือ เลวไม่มีที่ติไปเสียทั้งหมดหรอก เราอยู่ในโลกกันคนละไม่กี่ปี ประเดี๋ยวเดียวก็จะล้มหายตายจากกันไปหมดแล้ว มาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระทำไม อะไรที่ควรทำก็รีบทำเถิดปล่อยวางเสียบ้าง ความโกรธ ความเกลียดนั้นไม่มีคุณค่าอะไรต่อชีวิตอันแสนน้อยนิดนี้เลย ! มุ่งไปข้างหน้า ไปหาสิ่งที่มีคุณค่าให้ชีวิตดีงามดีกว่า

วิธีที่แนะนำทั้งหมดนั้น นักภาวนาเรียกว่า '' การกลับมาอยู่กับตัวเอง '' กล่าวคือ ถ้าเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องอยู่กับคนที่ไม่ถูกโฉลก แทนที่จะปล่อยใจให้อยู่กับ ความรู้สึกแย่ๆไปตลอด ก็ควรหันกลับเข้ามา '' มองด้านใน

'' แก้ไขที่ตัวเอง อย่ามุ่งแก้ไขที่คนอื่น เพราะยิ่งพยายามแก้ไขคนอื่น ก็ยิ่งยุ่งเหมือนลิงทอดแห ยิ่งเราให้ความสำคัญกับคนที่เราเกลียดมากเท่าใด สภาพจิตใจก็ยิ่งแย่ลงมากเท่านั้น

วิธีที่ดีที่สุดในการอยู่กับคนที่เรารู้สึกไม่ดีหรือเป็นปฏิปักษ์ก็คือ การดึงความรู้สึกจากเขามาอยู่กับเราทุกขณะ


*********

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

10 วิธี สุขฟรี - ปัจจุบันขณะที่คุณสุขเป็น ตามแนวท่าน ดิช นัท ฮันส์ - หมู่บ้านพลัม


1. วันว่างลองให้วันทั้งวันอยู่กับการว่าง ไม่มีนัด ไม่ไปธุระที่ไหนไม่กำหนดตารางอะไร

ให้ชีวิต จะทำกิจวัตรอะไรก็ให้เป็นแบบช้าๆ สบายๆไม่รีบเร่ง อยู่กับแต่ละกิจกรรมอย่างเต็มร้อยให้ใจได้พักผ่อนอย่างแท้จริงกับการดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะ วันว่างๆจะช่วยเติมเต็มพลังกายและใจให้แก่เรา แถมยังช่วยลดใช้พลังงานโลกด้วยวันนั้นอาจจะยอมให้ตัวเองนอนตื่นสายกว่าปกติสักนิดอาบน้ำแบบมอบความทะนุถนอมให้กับร่างกาย
เบิกบานกับอาหารเช้าที่ดีกับสุขภาพ
เปิดประตู เปิดหน้าต่างรับลมธรรมชาติ
เดินสำรวจละแวกบ้าน
ถ้าจะหยิบหนังสือที่ซื้อไว้ตั้งนานแต่ยังไม่ได้อ่านสักทีมาอ่านก็ไม่ผิดกฎอะไรตกค่ำจะลองทานมื้อเย็นใต้แสงเทียนให้หลอดไฟกับมิเตอร์ได้พักผ่อนก็ให้ความรู้สึกพิเศษดีเช่นกัน

2 . หายใจเล่น

สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับการอยู่เงียบๆคนเดียว ติดทีวี ติดโทรศัพท์อาจลองหาเวลาตีสนิทกับเพื่อนใกล้ตัวของเราทั้งสอง คือ คุณลมหายใจเข้าและคุณลมหายใจออก ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง เดิน นอน หรือ เคลื่อนไหวเราจะตระหนักรู้ถึงเพื่อนสองคนนี้อยู่เสมอ หมั่นเช็คอยู่เรื่อยๆว่าเพื่อนทั้งสองคนของเรามีสภาพอย่างไร ยังสบายดีอยู่หรือเปล่าเมื่อเราดูแลลมหายใจ ลมหายใจก็จะดูแลเรา การดุแลกันและกันเช่นนี้จะส่งผลดีต่อทางร่างกายและจิตใจความสงบที่เกิดจากภายในจะส่งผลที่น่าประทับใจถึงภายนอกในเวลาที่เราต้องเผชิญกับเรื่องยากๆ ต้องคิด ตัดสินใจและทำอะไรอยู่ตลอดเวลา การได้พักสัก 15 นาทีหรือสักชั่วโมงจะช่วยให้หัวที่เคยหมุนจนร้อน ใจที่เต้นรัวเร็วร่างกายที่เครียดตึงค่อยๆ ผ่อนคลายและเบาลงอย่างไม่น่าเชื่อ

3. ชื่นชมธรรมชาติ

ไม่ต้องรอให้ถึงวันพักร้อน แค่ตื่นเช้าขึ้นสักนิดดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ให้แสงแรกของพระอาทิตย์ล้างตาให้สะอาด ช่วงสายๆอาจจะมองท้องฟ้าสัก 5-10 นาที
ดูเมฆที่ค่อยๆเปลี่ยนรูปก็เติมความสดชื่นได้ดีบ่ายคล้อยเดินเล่นให้สายลมเย็นปะทะหน้าเบาๆสูดเอากลิ่นหอมของดอกไม้ใบหญ้า ได้เวลาพลบค่ำปิดไฟให้หมดจะได้เห็นดาวและเดือนที่ลอยเกลื่อนฟ้าได้ชัดขึ้นให้เวลาธรรมชาติได้บำบัดเราทั้งกายและจิตใจ4. สลายไขมัน สำหรับคนบ้าพลัง คนกลัวอ้วน คนไม่ชอบออกกำลังกายการออกกำลังกายให้ได้เหงื่อจะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นหรืออาจว่ายน้ำในความเงียบ ซึ่งนั้นหมายถึงรวมไปถึงเสียงในหัวเราด้วยลองว่ายไปเรื่อยๆ ตระหนักรู้การเคลื่อนไหวของร่างกายเราเสียงในหัวเราจะค่อยๆ เงียบลงเอง หรืออาจจะลองปั่นจักรยานรับลมสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ในหมู่บ้าน หรืออะไรก็ได้ที่เราชอบนอกจากจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข (เอ็นโดฟิน)แล้วยังช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีอีกด้วย

5. ศิลปินสมัครเล่นหยิบดินสอหรือสี ขึ้นมาวาดรูปแบบไม่ห่วงสวย

ปลดปล่อยจินตนาการให้ความเป็นเด็กในตัวออกมามีชีวิตผ่านงานศิลปะหรือประดิษฐ์งานฝีมืออะไรสักอย่างที่ทำให้เราได้มีพื้นที่และอิสนระจากความคิด ความยึดติด ทั้งนี้พบว่าการถักนิตติ้งช่วยสงบใจได้เป็นอย่างดี แถมยังเสริมสร้างสมาธืบำบัดความเบื่อหน่าย ความเครียด และแรงกดดันจากการทำงานทั้งยังได้ผลงานเป็นของขวัญให้คนรอบข้างอีกด้วย เรียกว่า บำบัดใจผู้ให้สุขใจผู้รับ

6. สุขใจกับงานบ้าน

การได้ลงมือ ปัดกวาดเช็ดถู จัดข้าวของในบ้านให้เป็นระเบียบ ทำสวนปลูกต้นไม้ ตัดแต่งใบเสีย ล้วนเป็นโอกาส ให้เราได้กลับมาปัดกวาดเช็ดถูจัดระเบียบ และรดน้ำเมล็ดพันธุ์แห่งความสุข ให้ใจเราได้เติบโต งอกงามสะอาด และใหม่สดอยู่เสมอ "บ้านสะอาดสดใส ใจก็งดงาม"

7. สนทนาใจใช้เวลากับเพื่อนแลกเปลี่ยนสุขทุกข์ของกันและกัน
ช่วยฝึกการฟังอย่างลึกซึ้ง และทำให้ตระหนักรู้ว่าเรามีคนอยู่เคียงข้างเสมอ หาวันว่างยามบ่าย บรรยากาศสบายๆที่บ้านใครสักคนนั่งพุดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาในวิถีแห่งสติอาจเป็นความตื่นเต้นจากความรับผิดชอบใหม่ๆหรือมองเห็นความสดใหม่ในงานเก่าหรือจะเป็นผู้คนที่เราพบเจอได้เรียนรู้ความสุขที่เรามี หรือแม้แต่ความเหนื่อยล้า เรื่องอกหัก ความทุกข์ใจความยากลำบากในครอบครัวที่ต้องเผชิญอื่นๆอีกมากมายที่เราพร้อมเปิดใจแบ่งปันต่อกันการได้ใช้เวลาอยู่ตรงนี้ด้วยกันอย่างเต็มเปี่ยมถือเป็นการบำรุงหล่อเลี้ยงซึ่งกันและกันแบบไม่ต้องใช้สตางค์

8. กลับบ้านแล้วใช้เวลาเพื่อพูดคุย ทำความรู้จัก เรียนรู้กันและกันให้มากขึ้น

ลองเริ่มจากการบอกกล่าวความรู้สึกภายในกับคนในบ้านไม่ว่าจะเป็นการกล่าวขอโทษสิ่งที่เราอาจจะพลาดพลั้งไปจนทำให้อีกฝ่ายเสียใจหรือกล่าวขอบคุณในความน่ารัก ความดีที่อีกฝ่ายได้ทำให้แก่เราหรือเลือกกิจกรรมที่ชอบด้วยกันที่บ้าน เช่น ดื่มน้ำชา กินขนมทำอาหารด้วยกัน นอนดูหนังเรื่องโปรด อ่านหนังสือ ผลัดกันเล่านิทานเล่นเกม ออกกำลังกาย ร้องเพลง เล่นดนตรีปิดท้ายด้วยการกอดสมาธิก็อบอุ่นดีไม่น้อย

9 แบ่งปันด้วยใจแบ่งปันเวลาทำประโยชน์เพื่อคนอื่นและสังคม

บางคนอาจเริ่มต้นง่ายๆจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น โปรยอาหารให้นกตัวน้อยๆ ในสวนที่บ้านเดินเก็บขยะแถวบ้าน รื้อข้าวของที่ไม่ใช้แล้วหรือไม่ค่อยได้ใช้(แถมได้ฝึกการตัดใจด้วย) มาทำความสะอาดแล้วนำไปบริจาคหาเจ้าของที่คู่ควรคนใหม่ หรือจะเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาต่างๆก็มีให้เลือกมากมาย ลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์

www.volunteerspirit.org

10 ยิ้ม

ยิ้ม ให้กับตัวเองยิ้มแบบใสๆ ยิ้มให้กว้างๆ จนเผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้าง แล้วจะพบว่าความสุขใจที่ไม่ต้องใช้สตางค์แบบนี้นั้นแสนวิเศษ

ยิ่งให้ก็ยิ่งได้

ที่มา : วารสาร พลัม ฉบับที่6 กรกฎาคม-กันยายน 2552

*******



"Happiness is not something ready made, it comes from your own action."


by DALAI LAMA








*****

“ใช้ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต"




*****

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ปลาบปลื้ม ปิติ อิ่มเอม จากงานแสดงธรรมเป็นธรรมทาน ครั้งที่ ๑๔ ของชมรมกัลยาณธรรม

“ทำความดี เป็นหน้าที่ของมนุษย์ ปกป้องคนทำความดี เป็นหน้าที่ของเทวดา"


อาจารย์ สนอง เคยสอนไว้ ความบริสุทธิ์ใจและกิจกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเราต่างทุ่มเท เพื่อชำระจิตวิญญาณของตนและผู้คนในสังคม ถือธงธรรมนำทาง ช่วยกันบำรุงศาสนา ยกแผ่นดินไทยให้สูงขึ้นด้วยธรรมะ เราเชื่อว่าฟ้าดินรับรู้ สวรรค์เปิดทางให้ และร่วมอนุโมทนาบุญกันทั่วทุกภพทุกภูมิ




******

วิสัยทัศน์ของพ่อแม่

ที่มา: บทความของ ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์ (เปิดฟ้าส่องโลก)

จันทร์ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๒

นิติภูมิเป็นติวเตอร์สอนหนังสือตั้งแต่อายุยังไม่ถึง ๒๒ ปี และเป็นต่อเนื่องยาวนาน คนที่เคยผ่านการสอนของ “ติวเตอร์หมู” จึงมิได้มีเป็นหมื่นคน ขอโทษครับ แต่มีเป็นแสนคนและกระจัดพลัดพรายทำงานอยู่ในหน่วยงานของรัฐและเอกชน ทั้งในราชอาณาจักรไทยและนอกราชอาณาจักร

การเดินทางไปทุกตรอกซอกมุมทั่วประเทศไทยของนิติภูมิ จึงไม่มีวันไหนที่ใดที่ผมจะไม่ได้เจอศิษย์บาลานซ์ (ติวเตอร์หมู) ซึ่งผมรู้จักมักจี่ท่านเหล่านั้นดีตั้งแต่เมื่อครั้งที่ท่านยังเป็นนักศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยรามคำแหง บัดนี้หลายท่านเป็นรัฐมนตรี เป็นนายพล เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคม แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ล้มเหลวในชีวิต

หัวข้อหนึ่งซึ่งผมและศิษย์ติวเตอร์หมูชอบสนทนากันก็คือ เรื่องมีลูกกี่คน ตอนนี้เป็นยังไง ทำอะไรกันบ้าง? ผ่านการสนทนาเรื่องลูกกับคนจำนวนมาก ทำให้ผมสรุปได้ว่า เยาวชนคนที่ประสบพบความสำเร็จในชีวิตในเบื้องต้น มักมีพ่อแม่ที่มีวิสัยทัศน์และฝึกลูกของตนไปในหนทางที่พ่อแม่ประสงค์ ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม

นายขจรเดช เจนวัฒนานนท์ มิได้เป็นศิษย์ติวเตอร์หมู แต่เป็นน้องรักของผมที่สนทนากันได้ทุกเรื่อง หลักจากจบนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหงแล้ว ขจรเดชเรียนเนติบัณฑิตไทย และเรียนปริญญาโททางกฏหมายอีก ๒ ใบในสหรัฐอเมริกา ภายหลังได้ทุนรัฐบาลสหราชอาณาจักรเข้าเรียนปริญญาโททางกฎหมายภาษีอีก ๑ ใบในสถาบันดังของโลก LSE แห่งมหาวิทยาลัยลอนดอน

ปลาย พ.ศ.๒๕๓๘ นายขจรเดชและนางกนกนันท์มีบุตรชายชื่อ เด็กชายอติวิชญ์ หรือน้องแจ๊ส คุณพ่อของน้องชอบสนทนาถึงแนวโน้มของโลกในอนาคตตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นนักศึกษาที่รามคำแหง ทานข้าวกันทีไร นายขจรเดชต้องคุยและถามเรื่องที่ว่า ต่อไปประเทศโน้นจะเป็นยังไง อนาคตของภูมิภาคนี้จะเป็นเช่นใด อาชีพใดของโลกที่ต่อไปจะมั่นคง และสร้างชื่อเสียงให้แต่ละชาติรัฐได้

นายขจรเดชและนางกนกนันท์มองเห็นภาพของลูกชายในภายภาคหน้าเป็น “นักกอล์ฟ” ระดับโลกที่มีชื่อเสียง ทั้งคู่จึงตัดสินใจตีเหล็กเมื่อยังร้อนอยู่ ด้วยการพาลูกไปดูการเล่นกอล์ฟ ซื้อเทปวีดีโอของไทเกอร์ วู๊ดส์ มาดูที่บ้าน ดูซ้ำๆ ซากๆ และติดตามรายการทีวีที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับกอล์ฟเป็นระยะ

วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป กอล์ฟกลายเป็นสิ่งที่อยู่ใต้สมองของน้องแจ๊ส และน้องแจ๊สกลายเป็นนักกอล์ฟตัวน้อยๆ โดยที่พ่อแม่ไม่ต้องเคี่ยวเข็ญ

บัดนี้ น้องแจ๊สอายุ ๑๓ ปี คว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันกอล์ฟมาแล้ว ๑๒ รายการ เช่นรายการ Mercedes Trophy Junior Golf Championship รุ่นอายุต่ำกว่า ๑๒ ปี รายการ 2008 Optimist Golf Qualifying Tournament (Thailand) รุ่นอายุ ๑๒ ปี รายการ A-Class Open Championship 2008 รุ่นอายุ ๑๒ ปี ฯลฯ

ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเยาวชนตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขันกอล์ฟทั้งในและต่างประเทศมาแล้วหลายครั้ง ทั้งในไทย จีนและสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบันน้องแจ๊สได้ครูฝึกสอนกอล์ฟชื่อ โค้ชเควิน ระยะไดร์ฟเฉลี่ยของน้องแจ๊สคือ ๒๖๐ หลา ความปรารถนาของน้องแจ๊สคือ การได้เล่นเป็นตัวแทนทีมชาติไทย จากนั้น อยากเทิร์นโปรคว้าแชมป์ The Master น้องแจ๊สใฝ่ฝันปรารถนาที่จะสร้างชื่อเสียงของประเทศไทยให้กระจายไปทั่วโลกด้วยกีฬากอล์ฟ

จบจากรามคำแหงแล้ว คุณพ่อของน้องแจ๊สเองก็เดินชีวิตจนประสบพบความสำเร็จ วันนี้ อายุเพียง ๔๐ ปีต้นๆ ผ่านการเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลถึง ๓ แห่ง ปัจจุบันท่านเป็น ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครปฐม

สังคมไทยหลายแห่งขาดวิสัยทัศน์การเลี้ยงลูก ผมเคยอาศัยในครอบครัวของผู้คนหลายชาติ หลายศาสนา หลายประเทศ หลายเผ่าพันธุ์ ฯลฯ พบว่า สังคมใดก็ตามปล่อยอนาคตของเยาวชนให้เป็นตามยถากรรม ไม่ได้สร้างสิ่งจูงใจให้ลูก เพื่อดึงความสนใจของลูกให้ไปในทางที่ควร สังคมนั้น ต่อไปในอนาคตจะเต็มไปด้วย “ขยะมนุษย์” มีแต่ปริมาณ แต่ไม่มีคุณภาพ มีแต่ภาระ แต่ไม่มีใครสนใจแบ่งเบาภาระ

เพื่อนบ้านหลายคน เปิดโทรทัศน์การเมืองคาบ้านทั้งกลางวันยันกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นของเสื้อสีไหน กลุ่มใดก็ตาม ผมสังเกตพบว่า ระยะหลัง ผู้ใหญ่ในบ้านหลังนั้นได้กลายเป็นคนรุนแรง ไม่มีเหตุผล ไม่เคารพกฏหมายและกติกาของสังคม

เด็กที่เติบโตภายใต้ชายคาบ้านเรือนพวกนี้ก็เช่นกัน กลายเป็นคนรุนแรง เอาแต่ใจตัวเอง เบลอเหมือนถูกล้างสมอง ไม่มีระเบียบวินัยในชีวิต ไปโรงเรียนก็ทะเลาะกับครู เถียงครูคอเป็นเอ็น อยากได้อะไร ก็ให้พ่อแม่พาพวกเดินทางไปกดดันครู

ประเทศที่ไม่มีสภาพเป็นนิติรัฐ ก็คือ นรก

อีกไม่กี่ปี พวกเอ็งจะได้อยู่ใน “นรกบนดิน” ของแท้แน่นอน

ที่มา:http://www.nitipoom.com/th/article1.asp?idOpenSky=3295&ipagenum=1



*******

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

The strength to get up..Are you going to finish strong?



I have no arms and no legs.
....................

A long the way you might flow down.
So what do you do !! when you flow down?
Get back up..!!
Sometimes when your life flow down.
You felt like no strength to get back up.
Do you think you have hope?
------------

I am down here.......face down....and I've no arms..no legs.
So, it should be impossible for one to get back up.
But it's not for me. I'll try one hundred times to get up.!!
Anyone fails one hundred times?
If I fail and I give up, do you think I'll get up?
I try again and again.... It's not the END.
It's the matter how do you finish.
Are you gonna finish strong?
You'll find that strength to get back up.
I need to finish strong.!!!

If want to download this clip, click here:

http://www.4shared.com/file/107917860/d9c83c22/AAA.html


*******

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

อานิสงส์ ของการสร้างบุญ

1. นั่งสมาธิ อย่างน้อยวันละ 15 นาที (หรือเดินจงกรมก็ได้)

อานิสงส์ --- เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้นทั้งภพนี้และภพหน้า
เพื่อจิตใจที่สว่างผ่อนปรนจากกิเลส ปล่อยวางได้ง่าย
จิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอัตโนมัติ
ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันอับจน
ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรง
เจ้ากรรมนายเวรและญาติมิตรที่ล่วงลับจะได้บุญกุศล

2. สวดมนต์ ด้วยพระคาถาต่างๆอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน

อานิสงส์ --- เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า
เงินทองไหลมาเทมา
แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง
จิตจะเป็นสมาธิได้เร็ว
แนะนำพระคาถาพาหุงมหากา , พระคาถาชินบัญชร , พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้น
เมื่อสวดเสร็จต้องแผ่เมตตาทุกครั้ง

3. ถวายยารักษาโรค ให้วัด , ออกเงินค่ารักษาให้พระตามโรงพยาบาลสงฆ์

อานิสงส์ - -- ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว โรคที่ไม่หายจะทุเลา
สุขภาพกายจิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้และภพหน้า
ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา

4. ทำบุญตักบาตร ทุกเช้า

อานิสงส์ --- ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหาร

ตายไปไม่หิวโหย อยู่ในภพที่ไม่ขาดแคลน ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์

5. ทำหนังสือหรือสื่อต่างๆ เกี่ยวกับธรรมะแจกฟรีแก่ผู้คนเป็นธรรมทาน

อานิสงส์ --- เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง ผู้ให้ธรรมจึงสว่างไปด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ ปัญญา และบุญบารมีอย่างท่วมท้น
เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้
ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่คาดฝัน

6. สร้างพระถวายวัด

อานิสงส์ --- ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง

สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ครอบครัวเป็นสุข

ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุท ธศาสนาตลอดไป

7. แบ่งเวลาชีวิตไปบวชชีพรามณ์ หรือบวชพระอย่างน้อย 9 วันขึ้นไป

อานิสงส์ --- ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่
ผ่อนปรนหนี้กรรมอุทิศผลบุญให้ญาติมิตรและเจ้ากรรมนายเวร
สร้างปัจจัยไปสู่น ิพพานในภพต่อๆไป ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนา
จิตเป็นกุศล

8. บริจาคเลือดหรือร่างกาย
อานิสงส์ --- ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุ
ต่อไปจะมีผู้คอยช่วยเหลือไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดาปกปักรักษา
ได้เกิดมามีร่างกายที่งดงามในภพหน้า ส่วนภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง

9. ปล่อยปลา ที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้งปล่อยสัตว์ไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ

อานิสงส์ --- ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิต
ชดใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวรท ี่เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้น
หน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใส
เป็นอิสระ

10. ให้ทุนการศึกษา , บริจาคหนังสือหรือสื่อการเรียนต่างๆ , อาสาสอนหนังสือ

อานิสงส์ --- ทำให้มีสติปัญญาดี ในภพต่อๆไปจะ ฉลาดเฉลียวมีปัญญา
ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างรอบรู้ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม

11. ให้เงินขอทาน , ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่การให้ยืม)
อานิสงส์ --- ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ตกทุกข์ได้ยาก
เกิดมาชาติหน้าจะร่ำรวยและไม่มีหนี้สิน ความยา กจนในชาตินี้จะทุเลาลง
จะได้เงินทองกลับมาอย่างไม่คาดฝัน

12. รักษาศีล 5 หรือศีล 8

อานิสงส์ --- ไม่ต้องไปเกิดเป็นเปรตหรือสัตว์นรก
ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐครบบริบูรณ์ ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
กรรมเวรจะไม่ถ่าโถม ภัยอันตรายไม่ย่างกราย เทวดานางฟ้าปกปักรักษา

อานิสงส์ 10 ข้อของการไม่กินเนื้อสัตว์

1. เป็นที่รักของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย

2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น

3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเค ี ยดแค้นในใจลงได้

4. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย

5. มีอายุมั่นขวัญยืน

6. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากเทพทั้งปวง

7. ยามหลับนิมิตเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นสิริมงคล

8. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน

9. สามารถดำรงอยู่ในกระแสพระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู ่ อบายภูมิ

10. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่สุคติภพ

อานิสงส์การจัดสร้างพระพุทธรูปหรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับพระธรรมคำสอนเป็นกุศลดังนี้

1. อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ

2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มี คนคิดร้ายไม่สำเร็จ

3. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้วก็จะเลิกจองเวรจองกรรม

4. เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอยู่ในที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย

5. จิตใจสงบ ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ

6. มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ (เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน

7. คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป

8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช

9. พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง

10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็นเป็นเนื้อนาบุญอย่างเอนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิดจะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้าปัญญาในธรรมแก่กล้าสามารถได้อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ

อานิสงส์การบวชพระบวชชีพรามณ์ ( บวชชั่วคราวเพื่อสร้างบุญ , อุทิศให้พ่อแม่เจ้ากรรมนายเวร )

1. หน้าที่การงานจะเจริญรุ่งเรือง ได้ลาภ ยศ สรรเสริญตามปรารถนา

2. เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรม หนี้กรรมในอดีตจะคลี่คลาย

3. สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส ปัญหาชีวิตคลี่คลาย

4. เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในภพต่อๆไป

5. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โพยภัยอันตรายผ่อนหนักเป็นเบา

6. จิตใจสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็นสัจธรรมแห่งชีวิต

7. เป็นที่รักที่เมตตามหานิยมของมวลมนุษย์มวลสัตว์และเหล่าเทวดา

8. ทำมาค้าขึ้น ไม่อับจน การเงินไม่ขาดสายไม่ขาดมือ

9. โรคภัยของตนเอง ของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและรักษาหาย

10. ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ได้เต็มที่สำหรับผู้ที่บวชไม่ได้เพราะติดภาระกิจต่างๆ ก็สามารถได้รับอานิสงส์เหล่านี้ได้ด้วยการสร้าง คนให้ได้บวชสนับสนุนส่งเสริมอาสา การให้คนได้บวช

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างบุญที่ยกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงอานิสงส์ที่ท่านพึงจะได้รับจงเร่งทำบุญเสียแต่วันนี้ เพราะเมื่อท่านล่วงลับท่านไม่สามารถสร้างบุญได้อีกจนกว่าจะได้เกิด หากท่านไม่มีบุญมาหนุนนำแรงกรรมอาจดึงให้ท่านไปสู่ภพเดรัจฉาน ภพเปรต ภพสัตว์นรกที่ไม่อาจสร้างบุญสร้างกุศลได้ต่อให้ญาติโยมทำบุญอุทิศให้ก็อาจไม่ได้รับบุญดังนั้นท่านจงพึ่งตนเองด้วยการสร้างสมบุญบารมีซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ท่านจะนำติดตัวไปได้ทุกภพทุกชาติเสียแต่วันนี้ด้วยเทอญ

*** ส่งต่อก็ได้บุญ การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง


******

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เดือนเกิดแสดงนิสัย!!

มกราคม


  • ทะเยอทะยาน จริงจัง อดทน
  • ชอบสั่งสอน รักการเรียนรู้ ขยันทำงานตัวเป็นเกลียว
  • มีความคิดสร้างสรรค์ ฉลาด
  • เจ้าระเบียบ ทำอะไรเป็นแบบแผนขั้นตอนไม่มีนอกลู่นอกทางแม้แต่น้อย
  • อ่อนไหว ช่างคิดรู้วิธีทำให้คนอื่นมีความสุข
  • ปกติจะเงียบขรึมถ้าไม่ได้กำลังตื่นเต้น หรือ เข้าสู่ภาวะคับขัน สงบเสงี่ยม
  • กระตือรือร้น
  • โรแมนติกแต่ไม่ค่อยยอมแสดงออกเท่าไร
  • ห่วงใยใส่ใจคนอื่น แต่ไว้วางใจใครง่ายไปหน่อย
  • ติดบ้าน ซื่อสัตย์ ขี้อาย ไม่ค่อยชอบเข้าสังคม
  • แถมขี้ หึงอีกต่างหาก

กุมภาพันธ์


  • ช่างฝัน รักทั้งโลกแห่งความเป็นจริงและโลกแห่งความฝัน
  • ไหวพริบปฏิภาณดี ฉลาด หากแต่บุคลิกภาพแปรปรวนไปนิด
  • เจ้าอารมณ์ เงียบ ขี้อาย สุภาพ ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง ซื่อสัตย์ ชอบตั้งเป้าหมายในชีวิต รักอิสระเหนือสิ่งอื่นใด ขบถได้ง่ายถ้าถูกบีบคั้น แอบก้าวร้าวบ้างบางครั้ง แต่ที่จริงอ่อนไหวมาก เสียใจง่าย! โกรธก็ง่าย ไม่ชอบเรื่องไร้สาระ ชอบคบเพื่อนฝูงใหม่ๆ น่ารักๆ รักกิจการงานบันเทิงทุกชนิดโรแมนติกลึกๆ แต่ไม่แสดงออก เชื่อถือโชคลาง ใช้จ่ายเงินเก่ง
มีนาคม


  • มีเสน่ห์ เป็นที่รักของผู้อื่น ขี้อาย สงบเสงี่ยม ลึกลับ
  • ซื่อตรง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เห็นอกเห็นใจ รักสันติและความสงบ อ่อนโยน ชอบเอาอกเอาใจคนอื่น ใจเย็น ไว้ใจได้ เห็นค่าคนอื่น ใจดี เคร่งศีลธรรม แต่ติดนิสัยชอบประเมินคนอื่น เจ้าคิดเจ้าแค้น แถมยังเพ้อฝัน ชอบสร้างจินตนาการ รักการเดินทาง รักการเป็นจุดสนใจ ใจเร็วไปนิดถ้าคิดจะลงหลักปักฐานกับใคร ชอบตกแต่งบ้านเอง มีพรสวรรค์ เรื่องดนตรี รักข้าวของแปลกๆ ข้อควรระวังคืออารมณ์หงุดหงิดง่าย
เมษายน


  • กระตือรือร้น ไม่ชอบหยุดนิ่งอยู่กับที่
  • เข้มแข็งเด็ดขาด แต่กลับใจอ่อนอย่างไม่น่าเชื่อกับคำขอโทษ
  • ดึงดูดใจและเป็นที่รักของผู้คน
  • ใจแข็ง รักการเป็นจุดสนใจ
  • พูดจาฉลาดถนอมน้ำใจทุกฝ่าย
  • ชอบปลอบโยน มนุษย์สัมพันธ์ดี
  • ชอบเสนอแนะแก้ปัญหาให้คนอื่น
  • กล้าหาญ ชอบผจญภัย
  • สุภาพเอื้อเฟื้อ
  • แต่เจ้าอารมณ์ ชอบกระตุ้นทั้งตัวเองและคนรอบข้าง
  • และขี้หึงมากเช่นกัน

พฤษภาคม

  • ดื้อดึง ใจแข็ง กล้าแกร่ง ตั้งใจมั่น แรงจูงใจสูง
  • หลักแหลม โกรธง่าย อารมณ์แปรปรวน
  • ชอบการเป็นจุดสนใจ
  • นิ่ง ไม่ค่อยแสดงอารมณ์มากนัก
  • มีจุดยืนของตัวเอง แข็งนอก อ่อนใน มีอิทธิพล แต่ก็มีเสน่ห์
  • ชอบปลอบโยนผู้อื่น มีระบบระเบียบ
  • เพ้อฝัน ถือโชคลาง มีสัมผัสพิเศษ
  • เข้าอกเข้าใจจินตนาการกว้างไกล รักการเดินทาง
  • ไม่ชอบอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน
  • ไม่ชอบหยุดนิ่ง ทำงานหนัก ความรับผิดชอบสูง
  • แต่สุรุ่ยสุร่ายไปหน่อย

มิถุนายน

  • คิดการณ์ไกล หัวก้าวหน้า
  • ใจอ่อนกับคนใจดี สุภาพ
  • พูดจาเบามีความคิดสร้างสรรค์มากมาย
  • อ่อนไหว ชอบคิดค้น
  • เสียตรงที่ขี้ลังเล
  • ไม่รักษาเวลา สนุกสนาน มีอารมณ์ขัน ชอบเรื่องตลก
  • มีทักษะดีในการโต้แย้ง
  • ช่างพูดช่างคุย ชอบฝันกลางวัน เป็นมิตร
  • รู้ว่าจะหาเพื่อนได้อย่างไร อดทน ชอบแสดงออก
  • เสียใจง่าย ชอบแต่งตัว ขี้เบื่อ นานๆ จะแสดงอารมณ์ออกมาซักที
  • ถ้าเสียใจต้องใช้เวลานานในการเยียวยา ชอบการบริหาร หัวรั้น ถือคติแปลกๆ ว่าใครประจบประแจงคือศัตรู ส่วนเพื่อนแท้ต้องไม่กลัวที่จะขัดใจ
กรกฎาคม


  • อยู่ด้วยแล้วสนุก มีเสน่ห์ เก็บความลับได้ แต่ยากที่จะเข้าถึงตัวตนที่แท้จริง
  • เงียบถ้าไม่มีอะไรตื่นเต้น หยิ่งทะนงในตัวเอง
  • ช่างเลือก มีความรับผิดชอบ
  • ชอบปลอบโยนคนอื่น
  • ซื่อตรง ซื่อสัตย์
  • สนใจความรู้สึกคนรอบข้าง
  • มีไหวพริบ
  • ใจดี ไม่ผูกใจเจ็บใคร
  • ไม่ชอบเรื่องไร้สาระทั้งหลาย
  • มีอิทธิพลต่อคนอื่นทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ
  • อ่อนไหว ไม่ไว้วางใจใครง่ายๆ
  • ห่วงใยใส่ใจคนอื่น ปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างเท่าเทียม
  • เห็นอกเห็นใจ แย่ตรงที่ชอบตัดสินคนอื่นเพียงเพราะสิ่งที่สังเกตเอาเอง
  • รักการเดินทาง ศิลปะ ดนตรี และวรรณกรรม
  • เรียนดี! ชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ ไม่ชอบความวุ่นวาย
  • เสียใจง่ายแถมต้องใช้เวลานานกว่าจะหาย
  • ทุ่มเททุกอย่างให้งาน

สิงหาคม


  • ชอบเรื่องตลก
  • มีเสน่ห์ สุภาพอ่อนโยน
  • ใส่ใจคนอื่น กล้าหาญไม่เคยกลัวอะไรทั้งสิ้น มั่นคงเด็ดเดี่ยว
  • เป็นผู้นำเต็มตัว รู้ว่าต้องดูแลปลอบโยนคนอื่นอย่างไร
  • แต่เสียตรงที่เอื้อเฟื้อเกินไป มั่นใจตัวเองเกินไป
  • เรียกร้องต้องการการยกย่องนับถือมุ่งมั่นแรงกล้าสุดๆ แถม โกรธง่ายเกินเหตุ โดยเฉพาะเมื่อถูกแหย่หรือกระตุ้น ขี้หึง เคร่งศีลธรรม หุนหันพลันแล่น ความคิดอิสระไม่ค่อยเหมือนใคร รักทั้งการเป็นผู้นำและถูกนำ
  • ช่างฝัน มีพรสวรรค์เรื่องศิลปะดนตรี และกลไกการป้องกันตัว
  • อ่อนไหวเหมือนกันแต่ไม่ค่อยจะอยากยอมรับ ยุ่งเหยิงวุ่นวาย ตลอดเวลา โรแมนติค
  • รักใคร่และห่วงใยคนอื่น ชอบคบหาเพื่อนฝูงใหม่ๆ
กันยายน

  • สุภาพอ่อนโยน ประนีประนอม
  • ระวังตัวแจ วางขั้นตอนชีวิตอย่างเป็นแบบแผน
  • ชอบตอกย้ำจุดอ่อนคนอื่น
  • ชอบการวิพากษ์วิจารณ์
  • เยือกเย็นและสงบ
  • ใจดี เห็นอกเห็นใจคนอื่น รอบรู้เรื่องต่างๆ
  • ซื่อตรง ทำงานเก่ง อ่อนไหว ช่างคิด ความจำดี
  • สนใจใฝ่รู้ ชอบการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ มีแรงจูงใจ
  • เข้าอกเข้าใจ เก็บความลับอยู่
  • รักกีฬากิจกรรมยามว่าง และ การเดินทาง
  • ไม่แสดงอารมณ์เสียจนเกือบจะเป็นคนเก็บกด ช่างเลือกโดยเฉพาะเรื่องแฟน

ตุลาคม


  • รักการพูดคุยเป็นชีวิตจิตใจ รักทุกคนที่รักตัวเอง รักการเจาะเข้าสู่จุดศูนย์กลางของเรื่องต่างๆ มีเสน่ห์ สุภาพนุ่มนวล จิตใจและรูปร่างสวยงาม ไม่โกหกเสแสร้ง เห็นอกเห็นใจคนอื่น ให้ความสำคัญกับเพื่อน ชอบคบหาเพื่อนใหม่อยู่เรื่อย เสียใจง่ายก็จริงแต่ไม่ต้องห่วง แป๊บเดียวก็หายเศร้า ชอบช่วยเหลือคนอื่น ชอบฝันกลางวัน ความคิดบรรเจิด มีสัมผัสพิเศษ รักการเดินทาง ศิลปะ และวรรณกรรม พูดจานุ่มนวล รักและใส่ใจคนอื่น โรแมนติก ขี้หึง เป็นห่วงเป็นใย รักความยุติธรรม เชื่อคนง่าย เพราะมองโลกสวยงาม สูญเสียความเชื่อมั่นง่ายมาก

พฤศจิกายน


  • ความคิดล้านแปดเต็มหัว ยากที่จะเข้าถึง คิดการณ์ล้ำหน้า โดดเด่นหัวไว ใส่ใจและชอบให้คำแนะนำ อยากรู้อยากเห็น รู้จักวิธีตะล่อมคุ้ยความลับ ชอบคิดอยู่ตลอดเวลา พูดน้อยแต่อัธยาศัยดี กล้าหาญและเอื้อเฟื้อ อดทน หัวรั้น ใจแข็ง ถือคติ ตราบใดที่ยังมีความหวัง ตราบนั้นก็ยังมีหนทางเสมอ มีเป้าหมายในชีวิต ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ โกรธยากมากถ้าไม่ถูกยั่วจนถึงขั้นจริงๆ ชอบอยู่คนเดียว มีแรงจูงใจในตัวเอง โดยไม่สนใจการยอมรับนับถือจากคนอื่น มั่นคง เด็ดเดี่ยว รักใครรักจริง เจ้าอารมณ์ โรแมนติก แต่ไม่ค่อยสนใจสัมพันธ์จริงจังนัก รักบ้าน ทำงานหนัก มีความสามารถสูง ไว้ใจได้

ธันวาคม


  • ซื่อสัตย์และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กระตือรือร้นในการแข่งขัน และปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
  • ไม่ค่อยมีความอดทน ทะเยอทะยาน มีอิทธิพลในสังคม
  • รักการเข้าสังคมมาก รักการได้รับการยอมรับ การเป็นจุดสนใจ
  • รักการที่มีคนอื่นมารักตัวเอง
  • ซื่อตรงและไว้ใจได้ ไม่เสแสร้ง แต่อารมณ์เสียง่าย
  • เกลียดการถูกบีบบังคับ รักเรื่องตลก มีอารมณ์ขัน

*******

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ทำชีวิตให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างไร

ทำชีวิตให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างไร
ตำตอบคือ...อยู่ที่ดวงของเรา ที่เราทำเอง

ทำ 3 อย่างแล้ว ดวงจะดี รุ่งเรือง ไม่มีเสื่อม

1) ให้ทานสม่ำเสมอ ทุกวัน ทุกวัน --ดวงจะดี 25%
2) รักษาศีล (ศีลข้อละ 5% )--ดวงจะดี 25%
3) ทำใจให้ร่าเริงเบิกบาน แจ่มใส ทั้งวัน ๆ ----ดวงจะดี 50%

......ต้องรักษาใจของเรา (อันนี้ทำยากที่สุด ..แต่คุ้มนะ)

ที่มา: VCD อรหันต์พลิกฝ่ามือ ของอาจารย์ วรากร ไรวา
http://www.kanlayanatam.com/tammatan.htm
................

คำแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล

ที่มา: http://www.onoi.org/dharma_isara/
ห้องสมุดธรรมอิสระ
หลวงปู่พุทธะอิสระ

คำแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล

สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย

สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัย ด้วยกันหมดทั้งสิ้นเทอญ

ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่คุณบิดา และมารดา คุณครูบาอาจารย์ ปู่ ย่า ตา ยาย ญาติสนิทมิตรสหาย และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย รวมทั้งท่านผู้มีพระคุณ ที่ได้ให้อาหาร และปัจจัยสี่แก่ข้าพเจ้า ขอท่่านผู้มีคุณทั้งหลายเหล่านั้น จงเป็นผู้มีความเจริญในธรรมของพระพุทธเจ้า คิดและหวังสิ่งใด ขอสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น จงสมความปรารถนาทุกประการเทอญ

ข้าพเจ้า ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักษ์รักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพญายมราช ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔, พระธรณี, พระคงคา, พระเพลิง, พระพาย, เจ้าที่-เจ้าทาง, เจ้าทุ่ง-เจ้าท่า-เจ้าถ้ำ, เจ้าป่า-เจ้าเขา, เปรต, อสุรกาย, ผีสางนางไม้, สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่เวียนว่ายตายเกิด อยู่ในวัฏสงสาร และ ณ สถานที่แห่งนี้ ขอจงมารับกุศลผลบุญอันนี้ อันข้าพเจ้าทั้งหลายได้กระทำแล้วด้วยดี ในครั้งด้วยนี้เทอญ

ขอผลบุญนี้ จงเป็นพลวปัจจัย ส่งผลให้ ไม่ว่าข้าจะอยู่ในที่ใด เกิดในชาติไหน ๆ จงอย่าประสบ อย่าได้พบกับคำว่า ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้ ไม่สบาย ตลอดกาลเทอญ.

.........

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ธรรมมะ Quick Reference

ไปร่วมฟังธรรมและได้รับแผ่นพับเล็ก ๆ รู้สึกว่าดีมาก ๆ เลยค่ะ
ขออนุโมทนาบุญกับผู้จัดทำนะค่ะ










วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ผ่าต้อกระจกฟรี หรือต้องการฟอกไตฟรี, บจก. ทาสของแผ่นดิน

โปรดช่วยกันกระจายข่าว 'ฟอกไตฟรี' บอกบุญส่งต่อกันไป "คนดีต้องมีคนเห็น ก่อนที่คนทำดีจะหมดกำลังใจ"

อุดมการณ์ ของคนทุกคนย่อมแตกต่างกันไป แต่มีอุดมการณ์ของผู้ชายคนหนึ่งที่เลือกแล้วที่จะทิ้งธุรกิจหลายสิบล้านของ ตัวเอง เพื่ออุทิศชีวิตทำงานเพื่อสังคม อุทิศชีวิตเพื่อช่วยเหลือคนไทยทั่วประเทศ เพราะเขาปวารณาตัวแล้วว่า จะเป็นข้าทาสของแผ่นดิน มีนายเพียงคนเดียวคือ พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย

เขา ผู้นั้นคือ ธานินทร์ พันธ์ประภากิจ ผู้ชายที่หาเงินได้หลายสิบล้านด้วยธุรกิจส่งออก แต่ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และแผ่นดินที่ตัวเองเกิด รวมถึงจุดเปลี่ยนที่เคยเฉียดตายมาแล้วจากการถูกลอบยิงที่ศีรษะ พอลุกขึ้นมาได้เขาก็ทำโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ฟอกไตฟรีให้กับประชาชนคนไทยทั่วประเทศ โดยใช้เงินของเขาเองทุกบาททุกสตางค์

' ชีวิต ของผมตั้งใจเดินตามพระยุคลบาทขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดินผิดไม่คิดจนตัวตาย มีแต่ความเจริญทั้งนั้น ไม่เจริญกับเรา ก็เจริญกับประเทศชาติ เจริญกับประชาชนผู้ยากจน เจริญกับวงศาคณาญาติหรือครอบครัวของเรา เพราะว่าเดินตามพระองค์ท่าน ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตไม่โกงกินแผ่นดิน และต้องไม่โกงกินผู้อื่น และต้องทำงานด้วยความเต็มใจทำ แล้วก็ต้องรักแผ่นดินใ ห้อยู่เหนือตัวเราเอง เค้าจะเรียกว่าทาสของแผ่นดิน

' รพ.บ้าน แพ้ว เป็นของประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน ไม่ใช่ของเอกชน ประชาชนทุกคนต้องมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน ประชาชนเท่านั้นที่จะเป็นของประชาชนได้

ถ้าคนยากคนจนติดต่อมารักษาฟรีหมดเลย ค่ารถค่าเดินทางก็ฟรี เราจะดูแลทุกอย่างให้อย่างดี ไกลที่สุดที่เคยมาอยู่ที่เชียงของ โดยที่เราไปรับมา คุณจะอยู่ที่ตรงไหน เราจะไปรับคุณที่ตรงนั้น ยะลา นราธิวาส ปัตตานี ผ่ามาหมด ทำให้เสร็จ ' หลาย คนมองว่าเขาติ๊งต๊อง แต่เขาทำด้วยใจจริงๆ แล้วไม่ยอมรับเงินบริจาคของใครด้วย โดยเขาบอกว่าหากใครจะเอาเงินมาช่วยทำ ก็เอาเงินจำนวนนั้นไปช่วยเหลือประชาชนได้เลย

เรื่องราวชีวิต มุมมองความคิดของเขาผู้นี้ได้ถูกถ่ายทอดออกอากาศในรายการ ' เจาะใจ ' เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน 2551 ทางช่อง 5

ธานินทร์ พันธ์ประภากิจ ทาสของแผ่นดิน แม้ เจ้าตัวจะไม่อยากเปิดเผยเรื่องราวแห่งความดีที่เคยทำ แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่หลายคนควรรู้ โดยเฉพาะช่วงชีวิตกว่าจะเป็นธานินทร์ ผู้เป็นเจ้าของบริษัท ทาสของแผ่นดิน และผู้ก่อตั้งศูนย์ผ่าตัดต้อกระจก-ต้อเนื้อ ฟรีแก่ประชาชนในเวลานี้

คุณธานินทร์ เรียนจบปวช.จากพาณิชย์วิทยาลัยสีลม จากนั้นได้เข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะรัฐศาสตร์ แต่เรียนได้เพียง 9 หน่วยกิตก็เลิกเรียน เพราะรู้สึกว่าการเรียนก็ได้แค่เรียนรู้เท่านั้น สู้ทำงานเองจะดีกว่า เขาจึงตัดสินใจออกมาทำธุรกิจกับเพื่อน จำหน่ายสินค้าประเภทรถยนต์ มอเตอร์ไซค์เก่า หนังสัตว์ กระดูกสัตว์ เสื้อผ้า และเครื่องใช้ต่างๆ กับต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น อเมริกา ลาว เขมร เวียดนาม สิงคโปร์ และจีน ในนาม หจก.เอ็ม.เอ.ที อิมปอร์ต-เอ็กซปอร์ต

คุณ ธานินทร์เล่าว่า เขาซื้อมอเตอร์ไซค์เก่าจากประเทศญี่ปุ่นได้ในราคาเพียงคันละ 600 < > บาท แต่สามารถนำเข้ามาขายในเมืองไทยได้ในราคาสูงถึง 15,000 บาท ซึ่งหลังจากหักต้นทุนขนส่งทั้งหมดแล้ว ยังเหลือกำไรคันละเกือบหมื่นบาท

สาเหตุ ที่คุณธานินทร์สามารถซื้อมอเตอร์ไซค์เก่าในราคาถูกเช่นนั้น เป็นเพราะน้ำใจ ความดี และความซื่อสัตย์ในการทำธุรกิจของเขาที่มีมอบให้เพื่อนและคู่ค้าอย่างจริงใจ และสม่ำเสมอ จนเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือแก่นักธุรกิจต่างชาตินั่นเอง จวบจนกระทั่งได้มาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา บริษัท เพรสซิเดนท์ ปาร์ค ( President Park ) พร้อมกับเป็นผู้ควบคุมดูแลอาคารทั้งหมด จากนั้นจึงก่อตั้ง ' บริษัท ทาสของแผ่นดิน จำกัด ' เมื่อ ประ มาณ 3 ปีที่แล้ว เพื่อจัดตั้งศูนย์ผ่าตัดต้อกระจก-ต้อเนื้อแก่ประชาชน โดยเขาเล่าถึงที่มาของชื่อบริษัทว่า ต้องการให้เห็นอันแน่วแน่ที่จะแก้ไขในสิ่งผิด '

ในอดีตชาติหรือปัจจุบันเราทำผิดมาก็มาก ทำถูกมาก็มาก อยาก ให้มองว่าระหว่างที่เรามีชีวิตอยู่ ไม่ควรมีการแบ่งชนชั้นวรรณะ หรือแบ่งเชื้อชาติศาสนา แต่ให้ยึดมั่นในองค์พระมหากษัตริย์ ประเทศไทยเป็นเมืองที่น่าอยู่และเป็นแผ่นดินที่ร่มเย็นมาก ' ' พ่อแม่ผมอยู่ในประเทศไทย แล้วผมก็เกิดในแผ่นดินนี้

ทุกคนอาจเห็นผมตัวดำ สีผิวผมที่ดำนี้คือสีดิน แล้วถ้าตัวผมไม่ดำผมจะเป็นทาสของแผ่นดินได้ยังไง เคยมีอุทาหรณ์สอนใจผมว่า ผมน่าจะเกิดเป็นลูกของคุณทักษิณ เพราะผมจะได้เป็นคนรวย มีเงินเยอะๆ ผมจะเดินทางไปหาประชาชน เดินตามรอยพระยุคลบาทของในหลวง พ่อผมจะเป็นอะไรก็เป็นไปไม่เกี่ยวกับผม แต่ผมจะเดินออกไปหาคนจนในถิ่นทุรกันดาร คิดว่าน่าจะเป็นความสุขใจในชีวิต วันนี้ผมจึงกล่าวขานขนานนามต่างๆในชีวิตของผมว่า ขอถวายชีวิตเป็นราชพลีแด่พระองค์วงศ์จักรี

ธานินทร์ทาสของแผ่นดิน ' ศูนย์ผ่าตัดต้อเกิดจากลมหายใจสุดท้าย ศูนย์ผ่าตัดต้อกระจก-ต้อเนื้อ ฟรี ดังกล่าว เกิดขึ้นจากพลังแห่งศรัทธาในบุญและบาป โดย ครั้งหนึ่งคุณธานินทร์เคยถูกลอบยิงเกือบเอาชีวิตไม่รอด

สาเหตุเกิดจากสองสามีภรรยาซึ่งเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในแวดวงสังคม เอาภาพถ่ายของตัวเองขณะยืนอยู่หน้าทัชมาฮาลวางติดไว้ด้านบนผนังด้านบน และเอารูปเจ้าแม่อุมาเทวีวัดแขกไว้ด้านล่าง เมื่อคุณธานินทร์เห็นเข้าจึงรู้สึกเป็นสิ่งที่ไม่สมควร พร้อมกับเขียนเรื่องนี้ลงในหนังสือของตัวเองเพื่อบอกให้ประชาชนได้รับรู้ ประเด็น นี้เองอาจสร้างความโกรธแค้นและกลายเป็นชนวนลอบสังหาร

โดยเขาถูกมือปืนยิงบริเวณหน้าบ้านย่านสีลม ลูกปืนเข้าที่ศีรษะทำให้ต้องรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู รพ.กรุงเทพคริสเตียน นานถึง 45 วัน และต้องทำการผ่าตัดถึง 6 ครั้ง ' เป็น ช่วงเวลาที่ได้เห็นคนเสียชีวิตมากมายมหาศาล สัจธรรมเกิดขึ้นมาทันทีว่าภาพที่เห็นคนตาย คิดในทางบวกถือเป็นความสุข เพราะไม่ได้นอนกับคนที ่รักเราอย่างเดียว แต่ได้นอนกับคนที่ต้องตายทุกวัน คิดว่าน้อยคนนักที่จะได้มานอนกับคนตายแบบนี้

ระหว่างที่อยู่ไอซียูยังได้ยินเสียงทุกคนพูดตรงกัน คงอยู่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง แต่ครึ่งชั่วโมงนั้นทำให้รอดตายมาได้ นับว่าโชคดีและเป็นบุญอย่างหนึ่ง ถามว่าสะทกสะท้านกับความตายไหม บอกได้เลยว่าไม่มี เลยได้คารมเด็ดๆในชีวิตว่า ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายเวลาถ้าสิ้นไป เพราะว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ' เหตุนี้ ชีวิตที่เหลืออยู่ เขาจึงขอแทนคุณแผ่นดินด้วยการตั้งศูนย์ผ่าตัดต้อกระจกขึ้น เพื่อรักษาผู้ยากไร้ ' วันนั้นคิดว่า ถ้าผมกลับมาได้จะตอบแทนบุญคุณให้กับแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ได้ยังไง ถ้าไปกิน-นอนอยู่ กับใครสักคนโดยไม่ทำอะไรให้ แต่อยู่อย่างสุขสบายไม่ช่วยเหลือและเกื้อกูล ไม่ทำอะไรให้เลย เขาจะเรียกว่าเนรคุณไหม

และถ้าผมอยู่ในแผ่นดินนี้ ไม่ช่วยเหลือแล้ว ยังกอบโกยโกงกินผืนแผ่นดิน เขาจะเรียกผมว่าทรราชของแผ่นดินหรือเปล่า ' ชีวิตเฉียดตายทำให้เข้าใจในความเป็นมนุษย์และบุญคุณที่ต้องทดแทนแผ่นดิน เมื่อแนวคิดในการเปิดศูนย์ผ่าตัดต้อกระจกทำท่าว่าจะเป็นจริง คุณธานินทร์จึงปรึกษากับ นพ. วิทิต อรรณเวชกุล ผอ.โรง พยาบาลบ้านแพ้วในขณะนั้นทันที แม้คุณหมอจะถามย้ำถึงความเชื่อมั่นว่าทำแน่หรือ เพราะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล แต่เขากลับมั่นใจว่าต้องทำได้ ' เมื่อ ปรึกษาหารือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงสั่งซื้ออุปกรณ์การผ่าตัดดวงตาจากต่างประเทศ และสั่งซื้อรถห้องผ่าตัดเคลื่อนที่หลายสิบล้านบาท โดยเงินทั้งหมดในการซื้ออุปกรณ์เป็นเงินส่วนตัวของผมที่ได้เก็บสะสมตลอดทั้ง ชีวิต ผมต้องการช่วยเหลือชาวบ้านผู้ยากไร้ คนไทยในแผ่นดินด้วยกัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว '

จากนั้นเขาได้จัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ลงพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยครั้งนั้นมีผู้ป่วยถึง 200 ราย หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดต้อกระจก และสามารถ มองเห็นอีกครั้ง ทุกคนต่างร้องไห้ดีใจ วิ่งเข้ามากอดเขาด้วยความซาบซึ้ง ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ศูนย์แห่งนี้สามารถทำให้ผู้ที่เป็นต้อกระจกมองเห็นได้ประมาณ 600,000 ราย และในปี 2549 พบผู้ป่วยตกค้างสะสมกว่า 100,000 ราย ณ วันนี้หากถามว่าเหนื่อยไหม คุณ ธานินทร์ ตอบกลับทันทีว่า ' ไม่เหนื่อยเลย ' เพราะแม้ กำลังกายจะสู้คนอื่นไม่ได้ หรือกำลังเงินอาจสู้ประชาชนคนรวยไม่พอ แต่เขาเชื่อว่ากำลังใจของเขาใหญ่กว่าคนรวยในแผ่นดินไทยมากมายมหาศาล ' ผม มาช่วยเหลือชาวบ้าน เพราะผมแบกความจนเอาไว้ การแบกความจนจะทำให้รู้ว่าเกิดเป็นคนอย่าลืมตัว เกิดเป็นวัวอย่าลืมตีน ดังนั้น ถ้าเราแบกความจนเอาไว้จะไม่ลืมความจนเลย วันนี้เราแบกความจนเอาไว้ก็จะพาประชาชนพ้นทุกข์ได้ และหากเราแบกความรวยเอาไว้เมื่อไร เราจะกลายเป็นคนลืมตัว ถ้าตายไปแล้วขึ้นสวรรค์ ขณะเดียวกันก็ยังมีคนยากจนอยู่ในแผ่นดินนี้ ขอกลับลงมาเกิดในแผ่นดินนี้ดีกว่า

ผมไม่ได้คิดที่จะเปิดศูนย์นี้เท่านั้น แต่มีความตั้งใจจะสร้าง ร.ร.อนุบาลเรารักในหลวง เพื่อต้องการปลูกรากแก้วให้กับเด็กๆ ' เขาเล่าถึงสิ่งที่ได้ช่วยเหลือชาวบ้านให้หมดทุกข์ ด้วยแววตาที่มุ่งมั ่นเช่นเดิม ชีวิต ที่เหลืออยู่ของ ธานินทร์ พันธ์ประภากิจ เขาขอเดินรอยตามพระยุคลบาทองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพราะสิ่งที่ผู้ชายคนนี้แบกไว้ ไม่ใช่ความรวย ไม่ใช่ความดี แต่คือ ' ความจน ' ที่เขาจะแบกไปตลอดชีวิต...

ผู้ที่ประสงค์ผ่าต้อกระจกฟรี หรือต้องการฟอกไตฟรี

กรุณาติดต่อไปยังโรงพยาบาลบ้านแพ้ว และนายชูศักดิ์ แก้วสุริยอร่าม บริษัท ทาสของแผ่นดิน จำกัด อาคารพระมหากรุณาธิคุณ เลขที่ 98 ซอยสุขุมวิท 24 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. 10110
ฟอกไต : โทร. 02-262 9454-5
โรคเกี่ยวกับตา : โทร. 089-889 0097, 02-261 8213-7

โดยผู้ป่วยที่ประสงค์ผ่าต้อกระจกฟรี กรุณาเตรียมบัตรประชาชน และบัตรทองมาด้วย
และสามารถรับการตรวจได้ในวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.00 น.- 11.00 น.
ข้อมูลส่วนหนึ่งจาก : http://www.jsl.%20co.th/minisite/%20index.php?
http://www.oknation.net/blog/tocare/2008/09/26/entry-1



โครงการคืนแสงสว่างให้ผู้ป่วยต้อกระจกและต้อเนื้อ

ขอเรียนเชิญผู้ป่วยทุกท่านมารับ บริการผ่าตัดต้อต้อกระจกและต้อเนื้อ ฟรี โดยมิต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น โดยมีแพทย์ของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว(องค์การมหาชน) สาขาสุขุมวิท ซอย 24

ติดต่อได้ที่ บริษัททาสของแผ่นดิน จำกัด ( 02-2629454-5, 02-2618213-7)
เวลาทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ 8.00-17.00 น.
เลขที่ 99/359-360 ซอยสุขุมวิท 24( เกษม) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 โทร 02 262 9454-5 แฟ็กซ์ 02 262 9454
**** เอกสารที่ต้องนำมาด้วย ถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและบัตรทอง อย่างละ 2 ใบ
แพทย์จะทำการตรวจคนไข้ใหม่เฉพาะวันพุธและวันศุกร์ กรุณาโทรแจ้งล่วงหน้า

**** คน บางคนอาจจะเห็นว่าไม่สำคัญแต่สำหรับบางคนอาจจะต้องการแสงสว่างเพื่อที่จะทำ ให้ชีวิตเค้ามีค่ามากว่าอยู่ในความมืดมัว ถ้าใครมีจิตศรัทธาที่จะทำบุญช่วยกัน บอกต่อๆไปด้วย การทำบุญด้วยการให้แสงสว่างแก่คนมาค่ามากกว่าสิ่งใดเพราะมันจะช่วยให้ชีวิต หนึ่งชีวิตที่พวกคุณหยิบยื่นไปให้ได้เห็นแสงสว่างอีกครั้งหนึ่ง

* เช็คข้อมูลออกหน่วย
- โรงพยาบาลฝาง อ.ฝาง จ. เชียงใหม่
- โรงพยาบาลยุพราช ท่าบ่อ อ.ศรีเชียงใหม่ หนองคาย
- โรงพยาบาลหนองจอก อ.หนองจอก กรุงเทพฯ
- โรงพยาบาลยุพราช อ. เดชอุดม อุบลราชธานี

โปรดช่วยกระจายข่าวด้วยนะครับเพื่อผู้ป่วยต้อกระจกจะได้มองเห็นโลกได้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

สุดยอด 28 มงคลในตำนานจีนโบราณ

สัญลักษณ์ที่เป็นมงคลตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ มีเรื่องน่าสนใจ และสามารถบันดาลความสุข ความสมหวังให้จริงหรือ นั่นคือภูมิปัญญาและกุศโลบายของบรรพบุรุษจีนที่ได้คิดขึ้น และได้สืบทอด ใช้เป็นข้อกำหนด เพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับสังคมชาวจีน มาช้านานในทุกผืนแผ่นดิน เกือบค่อนโลก เนื่องจากชาวจีนมุ่งมั่น เดินตามความหมาย และคำอวยพรที่เป็นสิริมงคล ของสัญลักษณ์มงคลจีนเหล่านั้น เช่น

ต้องการให้ทุกคนมีโชคลาภ (ฮก)
มียศถาบรรดาศักดิ์ (ลก) และ
มีชีวิตที่ยั่งยืนยาว (ซิ่ว)

เมื่อมีแนวคิดเกี่ยวกับความเชื่อแต่ในสิ่งที่เป็นมงคลแล้ว การค้นหาสิ่งที่ดีงาม ไว้เป็นมงคลแก่ตนเองนั้นจึงเป็นประโยชน์แก่การดำรงชีวิต ที่มีหลักของสัจธรรม เป็นแนวทางปฎิบัติ ทำให้เข้าใจในธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งย่อมทำให้มองเห็นคุณค่า ของการมีชีวิต อยู่บนโลกเดียวกันมากขึ้น เพราะความหมายของมงคลจีนโบราณนั้นคือ คุณค่าของการเข้าใจธรรมชาติ เพื่อให้อยู่อย่างมีความสุข และสมปรารถนาทุกประการ

ชาวจีนนิยมสร้างสิ่งเป็นมงคลแก่ตัวเอง โดยมีทั้งตัวอักษร รูปภาพลวดลาย และสัญลักษณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้วิเศษ ผลไม้ ดอกไม้ สัตว์ ของใช้ มาเกี่ยวพันมากมาย และจะปรากฏอยู่รอบตัวเสมอ หากจะให้บอกว่ามีจำนวนเท่าไร คงไม่ได้ เพราะมากมายเหลือเกิน

ณ ที่นี้ขอนำเสนอเพียง 28 สิ่งอันเป็นมงคลที่เราพบเห็นกันบ่อย และเป็นที่ได้รับความเชื่อถือ อย่างมากทั้งชาวจีน และไทยมาช้านาน

1. พระยิ้ม
2. ฮก ลก ซิ่ว
3. กวนอู
4. ไชซิ้งเอี้ย
5.จี้กงอ๊วกฮุด
6.จงขุย หรือเจ็งคุ้ย
7.หยิน-หยาง (ไท้เก๊กโต๊ว)
8.น้ำเต้า (หลู หรือ หู)
9.ระฆัง (เจง หรือเจ่ง)
10.เหรียญจีนโบราณ
11.คทามงคล (ยู่อี่)
12.มังกร (หลง หรือ เล้ง)
13.หงส์ (เพิ่งหวง)
14.กิเลน (ฉีหลิน)
15.สิงห์ (ไซ หรือจอหงวนไซ)
16.คางคกสามขา คาบเหรียญ(เซียมซู้ซากิมจี๊ หรือฉางฉุ)
17.กวาง (หลู้ หรือลก)
18.เต่ามังกร
19.ปลา (ฮื้อ หรือ อวี๋)
20.เป็ดแมนดาริน (อวงเอียง)
21.ม้า (หม่า)
22. หมู (จู)
23.ปี่เซียะ / ผี่ชิว หรือเผ่เย่า
24.แพะ (เหยียงหรือเอี๊ย)
26.กระต่าย (ทู่จื่อ หรือ โท้วบุ๊ง)
26.กุ้ง (เซีย)
27.ถั่วลิสง (หลัวฮวาเชิง)
28.ต้นไผ่ (จู๋)

1. พระยิ้ม สัญลักษณ์ของความรวย ความสุข และความอุดมสมบูรณ์ เป็นพระอ้วนกลมยิ้มแย้ม พุงพลุ้ย มีลักษณะท่าทางหลายแบบ แต่ละท่าล้วนแล้วแต่มีของมงคลที่สื่อถึงความมั่งมี ศรีสุข ประกอบอยู่ด้วย เชื่อว่า ผู้ใดบูชาพระยิ้ม จะได้รับมงคลที่มุ่งถึงความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์ศฤงคาร และความสุข เพราะท่านเป็นพระที่ร่ำรวย บางท่านมีความเชื่อว่า ให้อธิษฐานลูบท้องพระวันละครั้งจะทำให้เกิดโชคดี สมปรารถนา และมีลูกหลานเป็นบัณฑิต

2. ฮก ลก ซิ่ว ลาภ รวย อายุ
ฮก แปลว่า โชคลาภ ความสุขที่เกิดจากการได้สมหวังดังใจเทพฮก เป็นชายโหงวเฮ้งดี มีสง่าราศี แต่งกายภูมิฐาน มือหนึ่งประคองคทายู่อี่ ยอดทำด้วยหยก (คทาสมปรารถนา) เป็นของวิเศษ ใครอธิษฐานสิ่งใดก็ให้สมปรารถนา หรือได้โชคลาภตามคำขอ

ลก แปลว่า รวย หรือความมั่งคั่งเทพลก เป็นอัครอภิมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่ง มือหนึ่งถือบัญชีทรัพย์สินรายชื่อลูกหนี้ม้วนใหญ่ เพราะร่ำรวยล้นฟ้ามีสมบัติมหาศาล จึงมีลูกหนี้มากมาย อีกมืออุ้มลูกชาย ในมือลูกชายถือเงินทอง และอาจมีลูกสาวตัวน้อยเกาะขาอยู่ ในอ้อมแขนลูกสาวมีเครื่องประดับ ดอกไม้ ขนม แสดงถึงความมีกินมีใช้ ตามความเชื่อโบราณ ลก ที่สมบูรณ์จะต้องมีลูกชาย เพราะคนจีนถือเรื่องสืบต่อวงศ์ตระกูล ถ้ารวยอย่างเดียวโดยไม่มีลูกชายสืบสกุล ก็ไร้ประโยชน์

ซิ่ว แปลว่า อายุยืนเทพซิ่ว เป็นชายแก่ศรีษะล้าน หน้าผากนูน เคราสีขาวยาว มือหนึ่งถือผลท้อ ซึ่งเป็นผลไม้สวรรค์ ใครได้ทานจะมีอายุยืนยาว อีกมือถือไม้เท้าหัวมังกรสัตว์ในตำนานที่มีอายุยืนถึงหมื่นปี ที่คอไม้เท้าห้อยน้ำเต้า ภายในน้ำเต้าบรรจุยาอายุวัฒนะ เหนือน้ำเต้ามี "เซียนจือ" ผูกติดอยู่ เซียนจือคือตำรายาเทวดา หรือตำรายาอายุวัฒนะ ซิ่ว มีนกกระเรียนเป็นสัตว์เทพพาหนะฮก ลก ซิ่ว มีฮกเป็นหัวหน้า ส่วนลก และซิ่ว เป็นบริวาร ถือว่าต้องมีลก กับซิ่วจึงจะมีฮก นั่นคือต้องมีอายุมั่นขวัญยืน และมั่งมี จึงจะศรีสุขได้ การตั้งฮก ลก ซิ่วที่ถูกหลัก ต้องตั้งฮกไว้ตรงกลาง

3. กวนอู เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ กตัญญู เป็นที่ยำเกรงของภูตผีปีศาจกวนอู เดิมชื่อ หนเตี๋ยง ชาวเมืองฮอตั่งไก่ สูง ๖ ศอก ปากแดง หน้าแดง คิ้วตัวไหม ดวงตาการเวกมีง้าวเป็นอาวุธ เป็นคนดีมีคุณธรรม ซื่อสัตย์ กตัญญูรู้คุณคนเล่ากันว่า ผู้ใดคิดไม่ซื่อหวังทุจริต เมื่อได้พบเห็น หรือสบตากับเทพกวนอู จะเกิดความละอายใจ ไม่กล้าคิดคด จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีบริวารอยู่ใต้ปกครอง ควรบูชาไว้เพื่อเป็นสิริมงคล

4. ไชซิ้งเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ หรือเทพเจ้าเงินตราเป็นที่นิยมนับถือของผู้ประกอบการค้าชาวจีนมาช้านาน เนื่องจากมีอานุภาพในด้านการอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย มั่นคง ให้แก่ผู้บูชาไชซิ้งเอี้ย เป็นเทพเจ้าใส่หน้ากากงิ้ว ถ้าปั้นเป็นเทพ ๒ องค์ คือปั้นแบบครบชุดจะมีบู๊ และบุ๋น องค์บู๊จะหน้าดุ บางครั้งประทับบนหลังเสือ หรือเหยียบเสืออยู่ ที่หัตถ์ถือกระบอง ส่วนองค์บุ๋นหน้าตาดี มีหนวด เชื่อกันว่า องค์บู๊ ให้คุณเรื่องหนี้สินด้วย คือช่วยทวงหนี้ให้ผู้บูชา ลูกหนี้ไม่กล้าเบี้ยว

5. จี้กงอ๊วกฮุด อรหันต์ที่ชอบประทานความช่วยเหลือเป็นพระที่มีชีวิตชีวา หน้าตาขี้เล่นเบิกบาน ไม่ถือศีลกินเจ แต่ชอบร่ำสุรา รูปของท่านจึงมักมีจอกสุราอยู่ด้วย และมือหนึ่งจะถือพัดอั้งโล้ว ที่ใช้พัดเตาไฟทำด้วยใบลาน บางทีก็หิ้วรองเท้าข้างหนึ่ง แล้วใส่อยู่ข้างหนึ่ง เล่ากันว่า ท่านชอบช่วยเหลือคนที่มีความสามารถ ในรูปแบบแปลกๆที่คาดไม่ถึง

6. จงขุย หรือเจ็งคุ้ย เทพปราบมาร เป็นเทพแห่งปีศาจทั้งปวงตำนานเล่าว่า เป็นผู้ขจัดภูตผีปีศาจที่พระเจ้าถังเสวียนฝันถึง และให้อู๋เต๋าจือ จิตรกรวาดภาพตามคำบอกในฝัน ที่มาบอกถึงพระเจ้าถังเกาจง (พระราชบิดาของพระเจ้าถังเสวียน) ได้เมตตาประทานชุดสีน้ำเงิน และจัดงานศพของตน ที่ตกบันไดตาย เนื่องจากเสียใจสอบจอหงวนไม่ได้ จึงตั้งใจจะขจัดภูตผีปีศาจและสิ่งเลวร้ายให้ ดังนั้นในวันที่ ๕ ของเดือน ๕ เป็นวันปล่อยผี (ตวนอู่เจี่ย) จึงพากันแขวนเทพจงขุยไว้ที่ผนังบ้านเชื่อกันว่า ใครที่กลัวจะถูกทำของใส่ หรือถูกคุณไสยเล่นเอา ต้องมีจงขุยคุ้มครองอยู่ในบ้าน หรือกรณีที่ต้องเข้าโรงพยาบาล หรือคนป่วยไปพักฟื้นที่ไหน สถานที่เหล่านั้นถือว่า มันสกปรก คือมีคนตายมาก ต้องมีผีอยู่ ให้เอาเทพปราบมารองค์นี้ไปด้วย แล้วจะปลอดภัยหายเป็นปกติกลับบ้านได้

7. หยิน-หยาง (ไท้เก๊กโต๊ว) เป็นสัญลักษณ์วงกลมครึ่งขาวครึ่งดำ ในดำมีจุดขาว ในขาวมีจุดดำ เหมือนตาปลา ทำให้ดูเป็นปลาขาวดำสองตัวกลับหัวกัน ความหมายให้สีดำเป็น หยิน - ผู้หญิง ความมืดดำ โลก ดวงจันทร์ ความอ่อนแอ (สวยงาม) และความสันโดษ สีขาวเป็นหยาง - ผู้ชาย ความขาวสว่าง ท้องฟ้า (สวรรค์) ดวงอาทิตย์ ความเข้มแข็ง (พละกำลัง) และความเป็นคู่หยินหยางนี้เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่มีสองด้านเสมอ จึงถูกนำมาใช้เพื่อเป็นพลังมงคลในการเสริม และปรับฮวงจุ้ยได้อย่างดี


8.น้ำเต้า (หลู หรือ หู) เป็นสัญลักษณ์ของหมอเทพหรือหมอยาชาวจีนมักใช้แขวนในห้องเด็ก หรือผู้สูงอายุ เพราะเชื่อว่าหมอเทพได้มาอยู่ในห้อง ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง เด็กๆไม่งอแง และไม่มีภูตผีมารบกวน นอกจากนี้ผลน้ำเต้ายังเป็นพืชพันธุ์ที่มีเมล็ดมาก มีเครือยาว และออกผลไม่จบสิ้น เปรียบเท่ากับหมื่นชั่วคน ใช้แสดงถึงความเป็นมงคลให้มีอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง

9. ระฆัง (เจง หรือเจ่ง) เป็นสัญลักษณ์มงคลทางศาสนา หมายถึงการตื่น และการรู้เสียงระฆังทำให้ตื่นจากการหลงในกิเลสตัณหา ให้รู้สึกตื่น และรู้สัจธรรมที่แท้จริง ยังมีความเชื่ออีกว่าเสียงระฆังจะนำแต่ข่าวดีและเรื่องมงคลต่างๆมาให้เท่านั้น อีกทั้งยังจะทำให้รู้เท่าทันศัตรูคู่แข่งอีกด้วย

10.เหรียญจีนโบราณ สัญลักษณ์ที่แสดงถึงความมั่งคั่งร่ำรวย มีเงินทองมากมายชาวจีนโบราณถือว่าเป็นหนึ่งในมงคลแห่งสมบัติโบราณ เป็นสิ่งนำโชคลาภมาให้ จึงมักสลักคำสิริมงคลไว้บนเหรียญ ซึ่งแปลว่า ให้มีสิริมงคล สมปรารถนา หรือให้มีเงินทองเต็มบ้าน หรือเหรียญตราแห่งความเจริญรุ่งเรือง

11. คทามงคล (ยู่อี่) สัญลักษณ์แห่งความสมปรารถนาเป็นเครื่องยศชั้นสูง สำหรับจักรพรรดิ ขุนนางชั้นสูง และพระจีนชั้นผู้ใหญ่ไว้ใช้ทำพิธีกรรม ส่วนหัวของคทาเป็นรูปทรงแป้น งอๆ ซึ่งมาจากรูปลักษณ์ตรงส่วนหัวของเห็ดหลินจือ ที่ชาวจีนโบราณเชื่อว่า มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ ใครได้กินจะเป็นอมตะ และจัดเป็นพืชมงคลอย่างหนึ่ง คทายู่อี่อาจทำด้วยงาช้าง หยก หิน ไม้ไผ่ และโลหะ ถ้าทำด้วยหยกเรียกว่า "เง็กยู่อี่" เง็ก คือหยก ยู่อี่ แปลว่าสมปรารถนา คทายู่อี่ยังเป็นของวิเศษที่พระโพธิสัตว์ และเทพฮก (ฮก ลก ซิ่ว) ถืออยู่ด้วย เพราะฮก คือความสุข สุขที่เกิดจากการได้สมปรารถนาในทุกเรื่อง จึงเชื่อว่าสัญลักษณ์ยู่อี่นี้ จะนำความสมปรารถนามาให้

12. มังกร (หลง หรือ เล้ง) เป็นสัญลักษณ์แห่ง พลัง อำนาจ ความยิ่งใหญ่ เพศชาย จักรพรรดิ ประเทศชาติมังกรถือเป็นสัตว์สำคัญที่สุดของจีน และเป็นสัตว์เทพที่ศักดิ์สิทธิ์ เกิดจากลักษณะของสัตว์ ๕ ชนิด มีเขากวาง หัววัว ตัวงู เกล็ดปลา เท้าเหยี่ยว แต่บางตำราว่า มังกรมีที่มาจากส่วนของสัตว์ ๙ ชนิด คือ เขากวาง หัวอูฐ ตาปีศาจ คองู ท้องหอยแครงยักษ์ เกล็ดปลาตะเพียน หรือปลากะโห้ เล็บอินทรีย์ หรือเหยี่ยว ฝ่าเท้าเสือ หูวัว ที่สำคัญมีหนวดเครางอกยื่นออกนิดเดียว ใช้เวลา ๕๐๐ ปี หากอายุ ๑๐๐๐ ปี จะมีปีกงอกออกบินได้อีก ในปากมังกรจีนมีมุกอัคนี ซึ่งเป็นมุกวิเศษที่ขยายให้เล็ก-ใหญ่ มืด-สว่างได้ ใช้เรียกลม ฝน และปราบภูตผีปีศาจ ใช้แสดงพลังอำนาจ และความยิ่งใหญ่ มังกรเป็นสัตว์เทพ จึงเหาะเหินเดินอากาศได้ แหวกน้ำดำดินได้การนำสัญลักษณ์มังกรมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปวาด รูปปั้น หรือประดับตามข้าวของเครื่องใช้ หากเป็นของจักรพรรดิ มังกรจะมี ๕ เล็บ ของขุนนางจะมี ๔ เล็บ ถ้าสามัญชนจะมี ๓ เล็บเท่านั้นตามตำนานจีน มังกรเป็นสัตว์มงคลสูงสุด เป็นราชาแห่งสัตว์มีเกล็ดทั้งมวล เป็นตัวแทนแห่งความแข็งแกร่ง ความดีงาม ความตั้งใจ ความอุตสาหะพยายาม ความกล้าหาญ และความอดทน ชาวจีนจึงถือว่ามังกรคือ จิตวิญญาณของการเปลี่ยนแปลง และฟื้นฟูให้ดีขึ้น และมังกรยังเป็นผู้นำฝนแห่งชีวิตมาให้ภาพลักษณ์ของมังกร จะเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่เกิดปีไก่ (ระกา) ซึ่งเชื่อกันว่าแปลงร่างมาเป็นนกโฟนิกซ์ ที่เป็นเพื่อนสนิทกับมังกรหงส์ (เพิ่งหวง)เป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดินี ความงาม เพศหญิง และการเริ่มต้น หรือการมีชีวิตใหม่ที่ดี

13. หงส์ เป็นสัตว์ในตำนานเหมือนมังกร และกิเลน มีลักษณะของนกมงคล ๕ ชนิดประกอบกัน คือ หัวไก่ฟ้า ปากนกแก้ว ตัวเป็ดแมนดาริน ขนนกกระสา และหางนกยูง หงส์เป็นใหญ่ในสัตว์ปีกทั้งหมด มี ๕ ประเภทคือ ประเภทขนสีแดง ขนสีม่วง ขนสีเหลือง และขนสีขาว (หรือห่านฟ้า) หงส์ตัวเมียมีหัวสีแดง ตัวผู้หัวสีเขียวหรือน้ำเงิน เสียงร้องเหมือนขลุ่ย ไม่กินแมลงที่มีชีวิต ไม่จิกต้นไม้ที่เขียวสด ไม่บินเร่ร่อน เมื่อบินไปไหนจะมีนกอื่นบินตาม นกนี้สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ณืบนโลกได้ จะปรากฏในสถานที่มีความสงบเท่านั้น จึงใช้เป็นสื่อแสดงถึงความงาม และความดี ๕ ประการ คือ คุณธรรม ความยุติธรรม ศีลธรรม มนุษยธรรม และสัจธรรม รวมถึงทางศาสตร์ฮวงจุ้ยจะใช้หงส์ ในความหมายของการตั้งต้นใหม่ที่ดี

14. กิเลน (ฉีหลิน) สัญลักษณ์ของวาสนา ความมั่นคง และป้องกันสิ่งอัปมงคลกิเลน เป็นสัตว์มงคลตามตำนาน บางครั้งชาวจีนเรียกว่า "ม้ามังกร" เหมือนเรื่องพระอภัยมณีของคนไทย มีลักษณะของสัตว์มงคล ๕ ชนิดรวมกัน คือ หัวมังกร เขายูนิคอร์น ตัวเป็นกวาง มีเกล็ดเหมือนปลา หางวัว ถือเป็นสัตว์มงคลซึ่งเมื่อปรากฏขึ้นที่ไหน หมายถึงกำลังจะมีเรื่องมงคลเกิดขึ้น หรือจะมีแต่โชคดี ไม่มีเรื่องร้าย และยังเชื่อกันว่า การจัดตั้งกิเลนไว้จะช่วยกรองและขจัดสิ่งอัปมงคลต่างๆ ให้พ้นไป แต่จะนำเอาความโชคดี ข่าวดีมาให้

15. สิงห์ (ไซ หรือจอหงวนไซ)เป็นสัตว์มงคลที่มีอำนาจในภาคพื้นดิน ให้คุณทางด้านแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง บางตำนานเล่าว่า สิงห์ไม่ใช่สัตว์พื้นบ้านของจีน แต่มีในถิ่นแอฟริกา มีนักเดินทางชาวจีนไปเห็น ก็ชอบมาก แต่ไม่สามารถนำกลับประเทศได้ จึงจดจำกลับมาสร้างภาพตามจินตนาการ มีความสง่างามกำยำล่ำสัน เสียงร้องก้องกังวาน ถือเป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่าทั้งปวง สิงห์จึงเป็นที่ชื่นชม เคารพบูชาตั้งแต่กษัตริย์ จนถึงขุนนาง และนิยมจัดตั้งสิงห์คู่ไว้หน้าสถานที่สำคัญ เช่นหน้าพระราชวัง โบสถ์ วัด ยังมีบางตำนานกล่าวอีกว่า สิงห์ตัวผู้ และตัวเมียหยอกล้อเล่นกัน ขนของมันที่หลุดออกจากตัวเกาะกันเป็นลูกกลมๆ และต่อมาก็มีสิงห์ตัวเล็กออกจากก้อนกลมนั้น เราจึงเห็นรูปปั้นสิงห์ตัวผู้ (หวงไซจื้อ) จะเหยียบลูกโลก หรือลูกบอล ตัวเมีย (ฉือไซจื้อ) เหยียบลูกไว้ชาวจีนเชื่อว่า การจัดตั้งสิงห์ไว้หน้าประตู หรือปลายหัวเสา แสดงถึงอำนาจ น่าเกรงขาม เพราะสิงห์เป็นสัตว์เทพมงคล โดยเฉพาะสิงห์สีเขียวเป็นสัตว์เทพพาหนะของ มัญชุศรีมหา-โพธิสัตว์ (บุ่งชู้ผ่อสัก) ในพุทธมหายาน ดังนั้นสิงห์จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการปกป้องคุ้มภัย และมีอำนาจขจัดภูตผีปีศาจ ให้กับสถานที่นั้นๆอย่างยอดเยี่ยม

16. คางคกสามขาคาบเหรียญ (เซียมซู้ซากิมจี๊ หรือฉางฉุ) มีอีกชื่อว่าคางคกฟ้า เป็นสัตว์นำโชค มีมงคลหมายถึงโชคลาภ เงินทอง อายุยืนลักษณะเหมือนคางคก แต่มีสามขา ปากคาบเหรียญทอง ตามตำนานเล่าว่า เนื้อเซียมซู้เป็นยาอายุวัฒนะ กินแล้วช่วยให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ และเป็นอมตะ ตัวเซียมซู้จึงถูกจับกิน จนต้องอพยพทิ้งถิ่นไปอยู่บนดวงจันทร์ มีชายคนหนึ่งชื่อเหล่าไฮ้ เป็นผู้โชคดีได้พบตัวเซียมซู้ แล้วเก็บมาเลี้ยงอย่างดี จึงบันดาลให้เกิดโชคมากมาย ที่เคยยากจนก็กลับร่ำรวยขึ้นมาชาวจีนเชื่อว่า เซียมซู้ เป็นสัตว์มงคล ที่นำความร่ำรวย มีโชคลาภ และอายุยืนมาให้กวาง (หลู้ หรือลก) เป็นสัญลักษณ์แทนเทพเจ้าลก ในฮก ลก ซิ่ว ซึ่งหมายถึงยศถาบรรดาศักดิ์ ความร่ำรวย รุ่งเรือง มั่งคั่ง อายุยืนยาว

17. กวาง เป็นสัตว์อายุยืนมาก กวางสีเทามีอายุ ๑,๐๐๐ ปี กวางสีดำมีอายุ ๑,๕๐๐ -๒๐๐๐ ปี และพบว่ากวางถูกใช้ในพิธีบูชายัญ เพื่อความเป็นอมตะ ดังนั้นชาวจีนจึงเชื่อว่า ภาพหรือรูปปั้นกวาง นำสิ่งมงคลถึงความยืนยาว ทั้งด้านยศศักดิ์ ความก้าวหน้า ความร่ำรวย และสุขภาพดี มาให้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

18.เต่ามังกร สัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง อายุยืน สุขภาพดี ตั้งใจ มุมานะ นำไปสู่ความก้าวหน้า ความสำเร็จ อย่างมั่นคง ยืนยาว และรวมถึงความเพิ่มพูนด้านทรัพย์สินเงินทอง และป้องกันคุ้มภัยจากสิ่งชั่วร้ายเต่ามังกร เป็นสัตว์เทพที่มีพลังอำนาจ เป็นที่ศรัทธาสูงสุดของราชวงศ์ถัง ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ถังได้สร้างรูปปั้นเต่ามังกรไว้หน้าพระราชวัง และเป็นความเชื่อสืบต่อกันมาของชาวจีน เพราะมีความเชื่อว่า เต่ามังกร เป็นลูกตัวที่ ๙ ของพญามังกร ซึ่งออกมาเป็นเต่าหัวเป็นมังกร ตามความหมายแล้ว เต่า เป็นตัวแทนของความยั่งยืน แข็งแรง อดทน มีเกราะป้องกันอันตราย ส่วนมังกร คือ ความยิ่งใหญ่ ความดีงาม ความกล้าหาญ วาสนาบารมีสูงส่ง จึงถือเป็นมงคลสูงสุด เมื่อสัตว์มงคลทั้งสองชนิดมารวมกันไว้ ซึ่งเป็นสุดยอดปรารถนาของชาวจีนในอดีต และเป็นที่เชื่อถือมาจนถึงปัจจุบัน

19. ปลา (ฮื้อ หรือ อวี๋) สัญลักษณ์ของการมีมากมายล้นเหลือ ได้กำไร ได้ประโยชน์ภาษาจีนแต้จิ๋ว ฮื้อ เป็นคำพ้องเสียงแปลว่ามากมายล้นเหลือ ใช้แสดงถึงความหมายมงคล ให้มีสิ่งที่ต้องการมากมาย มีเหลือกินเหลือใช้ ไม่ขาด และโชคดีหากเป็นปลาทอง จะหมายถึงทองและหยกเต็มบ้านหากเป็นปลาหลี่ฮื้อ หรือหลี่อวี๋ หมายถึง ความสำเร็จ โดยมีตำนานว่า ปลาหลี่ฮื้อตัวใดสามารถว่ายมาถึงประตูมังกรที่ปากทางสวรรค์ แล้วกระโดดข้ามไปได้ จะกลายเป็น "ปลามังกร" ซึ่งเป็นคติสอนใจชาวจีนว่า คนจนก็มีสิทธิ์รวยได้ ถ้ามีความมุ่งมั่นและพยายามเหมือนปลาหลี่ฮื้อ ที่เพียรว่ายน้ำมาจนถึงปากทางสวรรค์ และใช้แรงพยายามสุดชีวิตเพื่อให้เข้าประตูมังกรได้สำเร็จ ซึ่งจะได้เปลี่ยนเป็นปลาที่มีเกียรติยศสง่างาม ถ้าปลาตัวใดกระโดดข้ามไม่ได้ก็ยังคงเป็นปลาหลี่ฮื้อตามเดิม จึงนิยมใช้ปลาหลี่ฮื้อแทนคำอวยพรที่ว่า ขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิต และให้มีเพียงพอ

20. เป็ดแมนดาริน (อวงเอียง) สัญลักษณ์ของการมีชีวิตคู่ที่มีความสุข การแต่งงานตามธรรมชาติของเป็ดแมนดาริน จะอยู่ด้วยกันเป็นคู่เสมอ จึงใช้อวยพรคู่บ่าวสาวให้มีชีวิตคู่เปี่ยมสุข และซื่อสัตย์ต่อกัน จึงมีความเชื่อว่า การใช้สัญลักษณ์เป็ดคู่ จะเป็นมงคลสูงสุดในเรื่องของความสมหวังในความรัก

21. ม้า (หม่า)สัญลักษณ์แทนความว่องไว รวดเร็ว ทันที แข็งแรง ไม่หยุดอยู่กับที่ การเดินทาง เลื่อนตำแหน่งชาวจีนเชื่อกันว่า การจัดวางม้าสามตัวจะสามารถแก้การแตกแยกได้ หรือใช้ภาพม้าแปดตัว แปดอิริยาบถ เพื่อเสริมความก้าวหน้ารุ่งเรืองในทางธุรกิจการค้า สำเร็จรวดเร็ว ม้า ยังเป็นสัญลักษณ์แทนคำอวยพรให้สุขภาพแข็งแรงอีกด้วย

22. หมู (จู)สัญลักษณ์ของการสอบได้ ทุกเรื่องง่าย สมบูรณ์พร้อม กินอิ่มนอนหลับชาวจีนเชื่อกันว่า การอวยพรโดยใช้รูปหมู หมายถึงการให้สอบได้ ส่วนคำว่า "ฮวน"ที่แปลว่าหมูป่าจะหมายถึงความสนุกสนาน ใช้แทนความหมายดีใจอย่างยิ่ง บางตำราเชื่อว่า หมูเป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์พร้อม ในเรื่องของการมีกินมีใช้ตลอด กินอิ่มนอนหลับ สบายใจ เพราะทุกเรื่องที่ยากจะกลับเป็นเรื่องง่ายๆ

23. ปี่เซียะ / ผี่ชิว หรือเผ่เย่าสัญลักษณ์ของสัตว์มงคลนำโชค ป้องกันและกำจัดสิ่งอัปมงคลมีลักษณะรูปร่างคล้ายกวาง มีเขี้ยว ตาโปน ปากกว้าง มีเขา หางยาว ปีกสั้น แต่บางตัวก็ไม่มีปีกมีอุปนิสัยกล้าหาญ เปิดเผย จงรักภักดี ซื่อสัตย์กับเจ้าของ ซึ่งรูปลักษณะของปี่เซียะเป็นการรวมสัตว์มงคล ๕ ชนิด ๕ ธาตุไว้ด้วยกัน คือ มีสี่เท้าของสิงโตอันทรงพลัง (ธาตุทอง) มีเขาและลำตัวเป็นกวาง (ธาตุน้ำ) มีปีกของพญานกอันแข็งแกร่ง (ธาตุไฟ) มีศรีษะของมังกรอันทรงพลัง (ธาตุไม้) มีหางแมวอันศักดิ์สิทธิ์ (ธาตุดิน)จึงเป็นความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับรูปลักษณะว่า เท้าตะปบเงิน ยกหัวข่มศัตรูคู่แข่ง อ้าปากกว้างรับทรัพย์ ลิ้นตวัดเกี่ยวเงินทอง หางยาวกวักโชคลาภ ไม่มีรูทวารเงินทองจึงไม่รั่วไหล เล่ากันว่า ปี่เซียะเป็นราชบุตรองค์ที่ ๙ ของพญามังกรสวรรค์ ที่เรียกกันหลายชื่อ ขึ้นอยู่กับสถานที่พบเห็น บ้างก็ว่า "เผ่เย่า"อยู่บนสวรรค์ "ผี่ชิว"อยู่บนโลกมนุษย์ "พีแคน"อยู่ในมหาสมุทร แต่ทั้งหมดจัดเป็นสัตว์เทพ ที่นำโชคลาภและขจัดสิ่งอัปมงคล ป้องกันอันตราย รวมทั้งยังช่วยนำพาลาภลอยมาให้ โดยเฉพาะโชคลาภที่เกี่ยวข้องกับการงาน หรืออาชีพที่ต้องเสี่ยงเชื่อว่า ปี่เซียะ มีพลังแรงมากในเรื่องการนำโชค หากยิ่งได้นำไปตั้งคู่กับ "กิเลน"ด้วยแล้ว จะยิ่งมีพลังแรงมากขึ้นไปอีก ผู้ที่จัดตั้งปี่เซียะนั้นควรเป็นผู้มีศีลธรรม คุณธรรม จึงจะประสบผล แต่หากมีนิสัยคดโกง ประพฤติผิดศีลธรรม ไม่มีคุณธรรมแล้ว ก็จะได้รับผลในทางตรงกันข้าม

24. แพะ (เหยียงหรือเอี๊ย)สัญลักษณ์แห่งความโชคดี ความรุ่งเรือง และความสำเร็จคนจีนโบราณยกย่องให้แพะเป็นสัตว์มงคล หมายถึงโชคดี และความรุ่งเรือง มีการวาดหรือปั้นลวดลายแพะสามตัว พ่อแม่ลูกกับดวงอาทิตย์ (ซาเอี๊ยไคไข่) ลายแพะสามตัวเปิดประตู (ซาเอี๊ยคุยมึ้ง) ถือเป็นมงคลและเป็นการอวยพร หมายถึงความรุ่งเรือง ความสำเร็จได้กลับมา อุปมาเหมือนเมื่อฤดูใบไม้ผลิ ความสดชื่นเขียวชอุ่มสวยงามก็กลับมา

25. กระต่าย (ทู่จื่อ หรือ โท้วบุ๊ง) สัญลักษณ์ให้มีอำนาจ ความสามารถ ความกล้าหาญ และยุติธรรมตามความเชื่อของชาวจีนสมัยโบราณเชื่อว่า ฝูงกระต่ายสีขาวบนดวงจันทร์ มีหน้าที่ปรุงยาอายุวัฒนะจึงวาดลวดลายมงคลเป็นกระต่าย ๓ ตัววิ่งไล่กันเป็นวงกลม โดยให้หูข้างเดียวของกระต่ายแต่ละตัวอยู่ตรงกลางเป็นสามเหลี่ยม เมื่อดูทีละตัวจึงจะเห็นกระต่ายแต่ละตัวมีหูสองข้าง ใช้แสดงมงคลถึงการให้มีอำนาจ กล้าหาญ และยุติธรรม หากใช้สัญลักษณ์ "กระต่ายป่า" จะหมายถึงความมีอายุยืนเหมือนกวาง

26. กุ้ง (เซีย) สัญลักษณ์แห่งความโชคดี ผ่านพ้นอุปสรรคเชื่อกันว่าลักษณะตัวงอของกุ้ง ทำให้ตัวเองมีแรงกระโดดได้ไกล ไม่มีอุปสรรคทั้งทางโค้งทางลัด จึงหมายถึงการทำสิ่งใดได้ผลตามที่ปรารถนา สามารถผ่านพ้นอุปสรรคทั้งหลายได้ และโชคดีในทุกเรื่อง

27. ถั่วลิสง (หลัวฮวาเชิง)ถือเป็นผลไม้มงคลอย่างหนึ่ง ซึ่งได้รับขนานนามว่า เมล็ดพันธุ์แห่งความยั่งยืนถั่วลิสง สามารถเจริญเติบโตได้ดีเมื่ออยู่ใต้ดิน มีเมล็ดเป็นพวงคล้ายองุ่น เก็บไว้ได้นานไม่เน่าเปื่อยมีรสชาติอร่อย หอมและมีคุณค่าต่อร่างกาย จึงใช้ถั่วลิสงเป็นสัญลักษณ์มงคล แสดงถึงความงอกเงย งอกงามและความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง

28. ต้นไผ่ (จู๋) สัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้า การยืดหยุ่น มั่นคง ทนทาน อายุยืนดังสุภาษิตที่ว่า ต้นไผ่สูงขึ้นร้อยเมตร ชีวิตต้องก้าวหน้าไปหนึ่งก้าว ( แป๊ะเชี๊ยะกอเท้า เก๊งจิ๊งเจ๊กโป่ว)ไผ่ คือต้นไม้มงคล ตามลักษณะของไผ่ เป็นไม้ที่มีประโยชน์มาก ปลูกง่ายโตเร็ว แตกกอเร็ว และให้ใบสีเขียวตลอดปี ในฤดูหนาวต้นไผ่จะไม่แห้งตาย และลู่ตามกระแสลม โดยเฉพาะเสียงแตกของไม้ไผ่ในกองไฟนั้น ใช้ขับไล่ภูตผีปีศาจได้ (เป็นต้นกำเนิดเสียงประทัด) และทำให้เกิดความสงบร่มเย็น ภาษาจีน คำว่า "จู๋"แปลว่า อวยพร ดังนั้น ต้นไผ่จึงเป็นสุดยอดไม้มงคลของการอวยพร ตามความหมายให้ก้าวหน้า รุ่งเรืองอย่างมั่นคงตลอดกาล

สัญลักษณ์มงคลจีนโบราณยังมีอีกมาก และมีความหมายมงคลในทางที่ดีแตกต่างกันไปแล้วแต่เลือกใช้ อาทิ

เจ้าแม่กวนอิม หรือพระโพธิสัตว์กวนอิม เทพแห่งความเอื้ออารี ช่วยเหลือผู้ประสบทุกข์ จะประทานพรให้ตามคำอธิษฐาน

ฮัวฮะ เซียนคู่ องค์หนึ่งมีของวิเศษเป็นใบบัว อีกองค์ถือตลับกลม เป็นมงคลให้รักใคร่ปรองดองกัน บ้านไหนพี่น้องชอบตีกัน สามีภรรยาวิวาทกัน หรือที่ทำงานพนักงานไม่ลงรอยกัน ตั้งฮัวฮะไว้ จะอยู่เย็นเป็นสุขดอก

โบตั๋น ความมั่งคั่ง มีเกียรติ ความสง่างาม

ช้าง เป็นสัตว์ที่มีอำนาจ พละกำลัง และฉลาด ถือสัตว์มงคลที่ช่วยนำความสำเร็จมาให้เสือ เป็นสัตว์เทพที่มีอำนาจ ใช้ป้องกันภูตผีปีศาจ และคุ้มครองชีวิต

ไก่ หงอนที่หัวหมายถึง ความมีสติปัญญาทางหนังสือ เดือยที่เท้าหมายถึง ความองอาจกล้าหาญ สัญชาตญาณการปกป้องตัวเมีย แสดงถึงความเมตตากรุณา คนจีนใช้เป็นมงคลในเรื่องของตำแหน่งทางการงาน และใช้เพื่อป้องกันไฟ

เต่า อายุยืน แข็งแกร่ง อดทน

ลิง ได้ยศศักดิ์ตำแหน่งสูงทุกชั่วคนสุนัข ปกป้องทรัพย์สินเรือใบ ความสะดวกปราศจากอันตราย และนำเงินทองเข้ามา

ผลท้อ ขจัดภูตผีปีศาจ และป้องกันโรคภัย อายุยืนค้างคาว โชคลาภ ความสุข อายุยืน

ค้างคาวสองตัวหมายถึง โชคดีเป็นสองเท่าค้างคาวห้าตัวหมายถึงพรห้าประการ คือ อายุยืน ร่ำรวย แข็งแรง ทรงคุณธรรมและตายตามธรรมชาติ หรือตายดี

ง่วนป้อ ความมั่งคั่ง รองรับโชคลาภ

เงินทองชาวประมงตกปลา ให้ได้กำไร มากมาย

จักจั่น อมตะ การฟื้นคืนชีพ เป็นสัญลักษณ์ของความสุข และหนุ่มสาวตลอดกาล เพราะจักจั่นเป็นแมลงชนิดเดียวที่มีอายุยืนยาวถึงสิบเจ็ดปี และยังเป็นมงคลแทนการสอบได้ เรียนเก่ง ความสำเร็จ

ยันต์แปดทิศ (โป๊ยก่วย) ใช้แก้ฮวงจุ้ยที่เสียให้ดีขึ้น และป้องกันสิ่งอัปมงคลต่างๆใบไม้ ความสุขสันติ ปัดเป่าความชั่วร้าย...ฯลฯ...

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากร้านพูนพร
หมายเหตุ: ผู้ก๊อบปี้ข้อมูลเพียงต้องการเผยแพร่ความรู้ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางร้าน เครดิตสำหรับร้าน จำหน่ายสังฆภัทณ์สำหรับงานบุญงานกุศล สนใจคลิ๊กชมสินค้าได้ที่http://www.poonporn.com/products/index.html

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ

มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ

1.นั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ15นาที(หรือเดินจงกรมก็ได้)
อานิสงส์---เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้นทั้งภพนี้และภพหน้าเพื่อจิตใจที่สว่างผ่อนปรนจากกิเลส ปล่อยวางได้ง่ายจิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอัตโนมัติ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันอับจนผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรงเจ้ากรรมนายเวรและญาติมิตรที่ล่วงลับจะได้บุญกุศล

2.สวดมนต์ด้วยพระคาถาต่างๆอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน
อานิสงส์---เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้าเงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง จิตจะเป็นสมาธิได้เร็วแนะนำพระคาถาพาหุงมหากา,พระคาถาชินบัญชร,พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้นเมื่อสวดเสร็จต้องแผ่เมตตาทุกครั้ง

3.ถวายยารักษาโรคให้วัด,ออกเงินค่ารักษาให้พระตามโรงพยาบาลสงฆ์
อานิสงส์---ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว โรคที่ไม่หายจะทุเลาสุขภาพกายจิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้และภพหน้า ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา

4.ทำบุญตักบาตรทุกเช้า
อานิสงส์---ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหารตายไปไม่หิวโหย อยู่ในภพที่ไม่ขาดแคลน ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์

5.ทำหนังสือหรือสื่อต่างๆเกี่ยวกับธรรมะแจกฟรีแก่ผู้คนเป็นธรรมทาน
อานิสงส์---เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง ผู้ให้ธรรมจึงสว่างไปด้วยลาถยศสรรเสริญ ปัญญา และบุญบารมีอย่างท่วมท้น เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่คาดฝัน

6.สร้างพระถวายวัด
อานิสงส์---ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ครอบครัวเป็นสุขได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนาตลอดไป

7.แบ่งเวลาชีวิตไปบวชชีพรามณ์หรือบวชพระอย่างน้อย9วันขึ้นไป
อานิสงส์---ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่ผ่อนปรนหนี้กรรมอุทิศผลบุญให้ญาติมิตรและเจ้ากรรมนายเวรสร้างปัจจัยไปสู่นิพพานในภพต่อๆไป ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนาจิตเป็นกุศล

8.บริจาคเลือดหรือร่างกาย
อานิสงส์---ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุต่อไปจะมีผู้คอยช่วยเหลือไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดาปกปักรักษาได้เกิดมามีร่างกายที่งดงามในภพหน้า ส่วนภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง

9.ปล่อยปลาที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้งปล่อยสัตว์ไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ
อานิสงส์---ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิตชดใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้นหน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใสเป็นอิสระ

10.ให้ทุนการศึกษา,บริจาคหนังสือหรือสื่อการเรียนต่างๆ,อาสาสอนหนังสือ
อานิสงส์---ทำให้มีสติปัญญาดี
ในภพต่อๆไปจะฉลาดเฉลียวมีปัญญาได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างรอบรู้ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม

11.ให้เงินขอทาน,ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่การให้ยืม)
อานิสงส์---ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ตกทุกข์ได้ยากเกิดมาชาติหน้าจะร่ำรวยและไม่มีหนี้สิน ความยากจนในชาตินี้จะทุเลาลงจะได้เงินทองกลับมาอย่างไม่คาดฝัน

12.รักษาศีล5หรือศีล8
อานิสงส์---ไม่ต้องไปเกิดเป็นเปรตหรือสัตว์นรกได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐครบบริบูรณ์ ชีวิตเจริญรุ่งเรืองกรรมเวรจะไม่ถ่าโถม ภัยอันตรายไม่ย่างกราย เทวดานางฟ้าปกปักรักษา


ขอขอบคุณที่มาด้วยค่ะ: http://www.kanlayanatam.com/sara/sara1.htm

วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2552

9 วิธีทำดีได้บุญแบบไม่เสียเงิน

๑.ตื่นเช้าขึ้นมาก็คิดแต่สิ่งดีๆ

ทันทีที่ตื่นนอนหากเราคิดถึงแต่สิ่งที่ดีที่งาม ก็จะทำให้จิตใจเราสดชื่นกระตือรือร้นพร้อมที่จะรับมือกับชีวิตประจำวันด้วยความรื่นเริง ไม่หงุดหงิด โมโห แค่นี้ นอกจากเราจะมีความสุขแล้วคนรอบข้างเราก็มีความสุขไปด้วยถือว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง

๒.ยิ้มแย้มแจ่มใส

ในแต่ละวันหากเราจะรู้จักยิ้มแย้มแจ่มใสไม่ว่าจะยิ้มกับคนรู้จักหรือไม่รู้จักก็ตามหน้าตาของเราก็จะดูเป็นมิตร ทำให้คนอยากเข้าใกล้ถ้าเราเป็นพ่อแม่ ยิ้มกับลูกก่อนไปทำงาน ลูกก็ดีใจ ลูกยิ้มกับพ่อแม่ๆก็สบายใจว่าต่างคนต่างไม่มีเรื่องเดือนร้อนใจแน่ หรือหากมีก็กล้าจะมาปรึกษาหารือ หรือหากเป็นเจ้านายยิ้มกับลูกน้องๆก็รู้ว่าวันนี้นายอารมณ์ดีทำให้ทำงานด้วยความมั่นใจไม่ต้องระแวงว่าจะถูกเรียกไปต่อว่าและถ้าเรียกก็ดูน่าจะมีเมตตากว่าเวลาที่นายทำหน้ายักษ์

๓.ทักทาย โอปราศรัย

คนบางคน นอกจากจะไม่ยิ้มกับใครแล้วยังชอบทำหน้าบึ้งตึงไม่คิดจะพูดจาทักทายใครด้วยซึ่งถ้าเกิดทำงานด้านบริการคนมาติดต่อคงรู้สึกเกร็งและกังวลตลอดว่าจะถูกเอ็ดตะโรเมื่อไรก็ไม่รู้ดังนั้น นอกจากยิ้มแย้มแจ่มใสแล้วเราก็ควรจะเอื้อนเอ่ยวาจาทักทายผู้มารับบริการก่อนการทักทายปราศรัยกับผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นผู้มาขอรับบริการเพื่อนฝูงคนรู้จัก ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือแม้แต่คนที่มาทำงานให้เรา เช่น แม่บ้าน ยาม ฯลฯจะทำให้เขารู้สึกเป็นมิตร และอบอุ่นใจทำให้บรรยากาศในที่นั้นๆดีขึ้น

๔.แบ่งปันน้ำใจไมตรี

สามารถทำได้ทุกที่และทุกเวลา เช่นช่วยพ่อแม่จัดโต๊ะอาหาร ล้างถ้วยชาม ลุกให้เด็กผู้หญิงท้อง หรือคนแก่นั่ง ช่วยถือของหนักให้คนในรถเมล์หยุดรถให้คนข้ามถนนหรือรถอื่นไปก่อนช่วยแบ่งเบาภาระงานให้เพื่อนในที่ทำงาน เป็นต้นการให้ความช่วยเหลือเช่นนี้เป็นการทำบุญด้วยการลดความเห็นแก่ตัวของเราลงและทำให้เราได้รับมิตรไมตรีสนองตอบกลับมาด้วย

๕. ปลุกปลอบให้กำลังใจช่วยแก้ไขปัญหา

หลายๆครั้งที่เพื่อนฝูงญาติมิตรอาจประสบปัญหาชีวิตและเกิดความทุกข์ใจแสนสาหัสสิ่งที่ดีที่สุดคือความเป็นมิตรและถ้อยคำที่ปลุกปลอบให้กำลังใจคำพูดดีๆที่มาจากใจจะทำให้ผู้ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์รู้สึกดีขึ้นและมีพลังที่ต่อสู้ชีวิตต่อไปได้

๖.ให้คำชมด้วยความนิยมยินดี

การกล่าวคำชื่นชมต่อผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆย่อมจะทำให้ผู้รับคำชมรู้สึกปลาบปลื้มยินดีและมีความสุขได้ โดยเฉพาะในเรื่องที่เขาทำสำเร็จแต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและจริงใจด้วยดูอย่างตัวเราเองแค่วันไหน แต่งตัวสวย แล้วมีคนชมเราก็หน้าบานไปทั้งวันแล้ว เช่นเดียวกันคนทุกคนล้วนอยากได้การยอมรับและคำชมทั้งนั้นเพราะคำชมจะเป็นการเสริมเพิ่มกำลังใจให้อยากทำดียิ่งๆขึ้นไป

๗.แนะนำให้คำสอนที่ดี มีคุณค่า

ไม่ว่าจะเราจะอยู่ในสถานภาพใด เช่น เป็นลูก เป็นพ่อแม่ลูกน้อง เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมอาชีพ ฯลฯหากเราจะมีเมตตาแนะนำในสิ่งที่ดีมีประโยชน์และคุณค่าต่อผู้อื่นหรือสอนในสิ่งที่เราชำนาญให้แก่ผู้อื่นก็จะเป็นการช่วยเกื้อกูลสังคมให้ดียิ่งขึ้นและผลก็จะย้อนมาสู่ตัวเราผู้ทำด้วย เช่น สอนงานให้ลูกน้อง ต่อไปเมื่อเขาทำงานเป็นเราก็ไม่ต้องเหนื่อยมากและเขาก็จะรู้สึกขอบคุณเรา แนะวิธีออกกำลังกายให้พ่อแม่ท่านก็แข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย เราก็สบายใจหรือแม้แต่การแนะนำให้ความรู้ที่เรามีหรือทราบมาแก่คนไม่รู้จักอย่างแนะนำหมอ ยาดีๆหรือธรรมะที่ดีแก่คนอื่นทำให้เขาหายป่วยหรือรู้สึกดีขึ้นเขาก็จะอธิษฐานหรือให้พรเรา ทำให้เราพบแต่สิ่งดีๆในชีวิต

๘.การให้อภัยในความผิดพลาดของผู้อื่น

โดยทั่วไปคนเรามักจะให้อภัยตัวเองง่ายและมีข้อแก้ตัวให้ตนต่างๆนานา แต่ถ้าผู้อื่นผิดพลาดแล้วเรามักเห็นเป็นเรื่องใหญ่และตำหนิติเตียนไม่รู้จักแล้วจบดังนั้น เราจะต้องหัดมีเมตตารู้จักให้อภัยต่อผู้อื่นให้ง่ายเหมือนให้อภัยแก่ตัวเราเองเพราะการให้อภัย จะทำให้เราไม่ผูกใจเจ็บ ไม่อาฆาตมาดร้ายไม่ก่อศัตรู แต่ทำให้จิตใจเราสงบเย็นเป็นฝึกจิตพื้นฐานอย่างหนึ่งที่จะนำไปสู่กุศลขั้นสูงอื่นๆต่อไป

๙.ฝึกจิตให้สงบและสบายด้วยการทำสมาธิหรือสวดมนต์

การทำสมาธิ ฟังดูเหมือนยาก แต่จริงๆเราทำได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรอยู่ เช่นกินข้าว อาบน้ำ ทำการบ้าน ทำงานบ้าน อ่านหนังสืออยู่ที่ทำงานหัวใจหลักคือให้เอาใจไปจดจ่อในสิ่งที่ทำเพียงอย่างเดียวจะทำให้เราทำทุกอย่างได้ดีขึ้น เพราะไม่พะวักพะวนคิดหรือทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันอันทำให้ขาดสติและทุกๆคืนก่อนนอน ก็ควรสวดมนต์ไหว้พระที่เรานับถือโดยอาจเลือกบทสวดสั้นๆที่เราชอบเสร็จแล้วก็อย่าลืมแผ่เมตตาให้กับตัวเราเองและผู้อื่นตามสมควร

ที่มา: www.sanook.com

ไหว้พระ 9 วัด (กรุงเทพ) เพื่อความเป็นสิริมงคล

ไหว้พระ 9 วัด (กรุงเทพ) เพื่อความเป็นสิริมงคล

http://p-tour.blogspot.com/2009/04/9.html

สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ



วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2552

10 อันดับของสังฆทาน ที่พระจะได้ประโยชน์มากที่สุด

(จากสกู๊ปรายการจุดเปลี่ยน) รายการ 'จุดเปลี่ยน'
เมื่อวันเสาร์ที่ 14 และ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา (ช่อง 9 เวลา 13.00 น.) ออกอากาศเรื่อง
'10 อันดับของสังฆทาน ที่ทำแล้วพระท่านจะได้ประโยชน์มากที่สุด'



รายการจุดเปลี่ยนจึงได้ไปสอบถามพระสงฆ์จำนวนหนึ่ง แล้วจัดอันดับสิ่งของสังฆทาน ตามความจำเป็นในการใช้งาน



รวม 10 อันดับ ซึ่งเรียงจากจำเป็นมากสุดไปน้อยที่สุดได้ ดังนี้



1. เครื่องเขียน สมุด ปากกา ดินสอ เนื่องจากพระสมัยนี้ต้องเรียนพระปริยัติธรรม และจดกำหนดนัดหมายต่างๆ ช่วยจำ บางรูปท่านเป็นเหรัญญิกดูแลค่าใช้จ่าย ยิ่งต้องใช้มาก แต่ไม่ค่อยมีใครถวายเครื่องเขียนเหล่านี้ พระท่านจึงต้องไปเดินหาซื้อเองเสมอ หากเราถวายไป พระท่านจะได้ใช้อย่างแน่นอนค่ะ อันดับ 1 จึงตกเป็นของ 'เครื่องเขียน' ไปอย่างพลิกความคาดหมาย (หรือว่าคุณทายถูกล่ะ ? เอ้อ)



2. ใบมีดโกนตราขนนก (Feather) หรือยี่ห้อ Gillette ยิลเลตต์ เนื่องจากพระต้องโกนผมทุกวันโกน แต่ใบมีดยี่ห้ออื่น พระใช้โกนผมแล้วเลือดสาด !!! ท่านจึงใช้ได้แค่ 2 ยี่ห้อนี้เท่านั้น อนึ่ง ใบมีดตราขนนกจะคมกว่ายินเลส ใช้ในการโกนครั้งแรก ส่วนยิลเลตต์จะใช้เก็บความเรียบร้อยอีกครั้ง หากท่านใดถวายใบมีด ก็ได้ชื่อว่า ช่วยไม่ให้พระต้องเสียเลือดเนื้อทุกวันโกน ข้าพเจ้าเห็นว่าได้บุญดีกว่าให้ยาอีกนะท่าน



3. ผ้าไตรจีวร ที่มีความยาวพอที่จะนุ่งห่มได้ มีความหนาพอเหมาะสม เพราะผ้าที่ติดมากับถังเหลือง มันทั้งสั้น ทั้งเต่อ ทั้งบาง ทำให้พระท่านลำบากใจเวลาสวมใส่ ขาดความมั่นใจ และเสียภาพลักษณ์ที่ดีของสงฆ์ ผู้ใดถวายผ้าไตรจีวร จึงได้อานิสงส์มากนัก นี่ก็ใกล้จะถึงเทศกาลเข้าพรรษาแล้ว เตรียมผ้าอาบน้ำฝนไปถวายพระกันเถอะนะคะ



4. หนังสือธรรมะ สารคดี นิตยสาร หรือที่ให้ความรู้ด้านอื่นๆ เนื่องจากพระสงฆ์ มีหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา จึงจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ที่แตกฉาน ทั้งทางธรรม และรู้ทันข่าวสารบ้านเมือง เพื่อจะได้สาธิตยกตัวอย่างให้ชาวบ้านเข้าใจได้แจ่มแจ้ง การถวายหนังสือเหล่านี้ จึงถือเป็นต้นทุนแห่งธรรมทาน ให้พระท่านได้นำไปต่อยอด กระจายสู่ผู้คนได้อีกมาก ทั้งยังถือเป็นการลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยง แถมได้ผลตอบแทนสูง น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง



5. รองเท้า (ยกเว้นพระนิกายธรรมยุตต์นะจ๊ะ สังเกตให้ดีล่ะว่าวัดที่เราไป พระท่านใส่รองเท้ากันหรือเปล่า) พระท่านต้องเดินบิณฑบาตร, ธุดงค์, ไปเรียนหนังสือ, ไปกิจนิมนต์ตามที่ต่างๆ, บางรูปต้องทำงานที่ใช้แรงงานในวัด เช่น ก่อสร้าง ทำสวน สิ่งที่ต้องรับภาระหนักก็คือ 'รองเท้า' ที่มักจะขาด เสียหาย อยู่บ่อยๆ นั่นเอง รองเท้าจึงถือเป็นอีก item หนึ่งที่มีความสำคัญอย่างสูง



6. ยาหลักๆ ที่จำเป็นยาสามัญประจำบ้าน ยาแก้ปวดหัว ปวดท้อง ยาแก้ไอ แก้ไข้ ลดกรดในกระเพาะอาหาร ยาใส่แผลสด แผลเปื่อย แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลพุพอง เป็นหนอง ผิวหนังอักเสบ เป็นหนอง



7. ผ้าขนหนูสีสุภาพ ไม่ต้องสีเหลืองก็ได้เพราะผ้าขนหนูที่ติดมากับถังเหลืองมักหยาบ เล็ก และคุณภาพต่ำ จนเอามาใช้ไม่ได้ในชีวิตจริง



8. ชุดคอมพิวเตอร์ อู้วววว ไฮโซไปนิดนึง แต่ถ้าใครรวบรวมเงินได้เป็นกอบเป็นกำอย่างกฐิน ผ้าป่า ก็น่าพิจารณาถวายคอมพิวเตอร์แด่วัดที่ขาดแคลน .. ถ้าเป็นวัดที่อินเตอร์เน็ตเข้าไม่ถึงจะดีมากๆ ค่ะ



9. น้ำยาเช็ดพื้น เหอ... งงไปเลย พระท่านจะเอาน้ำยาเช็ดพื้นไปทำอะไร ?? เฉลย ก็เอาไปผสมน้ำ ถูกุฏิ ศาลา อุโบสถ ไงจ๊ะ เพราะนอกจากจะช่วยผ่อนแรงในการทำความสะอาด สลายคราบแล้ว บางยี่ห้อยังช่วยฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในมูลนกพิราบ ฉี่หมา ฉี่แมว ฉี่หนู เห็บ หมัด ของหมาวัดได้อีกด้วย



10. แชมพู พระท่านไม่มีผมแล้วจะเอาแชมพูไปทำไมเนี่ย แถมยังฮอตฮิตติดท็อปเท็นของที่มีประโยชน์อีกด้วย แซงหน้าไมโล โอวัลติน ชาเขียว ขิงผง สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ทิชชู่ ฯลฯ ที่เห็นสลอนอยู่ในถังเหลืองซะด้วยซี คืองี้ เมื่อพระท่านไม่มีผมมาปกป้องหนังศีรษะเนี่ย ทั้งความร้อน ฝุ่นละออง เชื้อโรคต่างๆ ก็จะเข้าถึงหนังศีรษะของท่านได้โดยตรง แถมการรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของหนังศีรษะก็จะเสียไป เพราะไม่มีผมปกคลุม ทำให้หนังศีรษะของพระ มักจะแห้ง และเกิดโรคผิวหนังอยู่เสมอ เช่น ชันตุ เป็นต้น สิ่งที่จะช่วยบรรเทาได้ก็คือ แชมพูยา ที่มีส่วนผสมปกป้องหนังศีรษะ รักษาสมดุล



สังเกตง่ายๆ ที่ฉลากจะมีคำว่า 'Scalp' เป็นสำคัญ ยี่ห้อที่เป็นแบบนี้ก็มักจะเป็นพวก แชมพูขจัดรังแค อย่างคลินิค, แพนทีน, Head & Shoulder, ไนโซรัล เป็นต้น แต่น่าเศร้าใจ ที่ไม่มีใครถวายแชมพู พระท่านจึงจำต้องใช้สบู่แก้ขัด ซึ่งทำให้ยิ่งคันหัว ศีรษะแห้งไปกันใหญ่ ดังนั้นจึงขอท่านโปรดจำไว้ ว่าเราควรซื้อแชมพูไปถวายพระ แต่ก็เลือกสูตรกันนิดนึงนะคะ ให้เป็นสูตรดูแลหนังศีรษะ เพราะถ้าเกิดเราเลือกสูตร 'เพื่อผมนิ่มสลวยดำเงางาม' ไปถวายท่าน... ท่านอาจเข้าใจผิด คิดว่าเราแซวได้ค่ะ การทำสังฆทาน นอกจากจะถวายเป็นสิ่งของแล้ว



อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ ก็คือ การบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลสงฆ์ เพื่อช่วยเหลือพระภิกษุที่อาพาธค่ะ หวังว่าข้อมูลนี้คงจะเป็นประโยชน์ ทั้งกับท่านพุทธศาสนิกชนที่มีจิตกุศลต้องการทำสังฆทาน และกับพระภิกษุสามเณร ผู้รับสังฆทาน ที่เป็นเนื้อนาบุญของโลก และเป็นผู้ที่จะสืบทอดพระพุทธศาสนาของเราต่อไปค่ะ